คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 375/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อเป็นที่พอใจว่ามีการบกพร่องในเรื่องความสามารถของคู่ความ แม้โจทก์ไม่ได้ยื่นครอบครองขอให้ศาลทำการสอบสวนก็ตาม อาศัยความตาม ป.วิ.แพ่ง ม.56 วรรค 2 ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจที่จะสั่งให้ศาลชั้นต้นสอบสวนเรื่องความสามารถของโจทก์ได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่านาพิพาทโจทก์ได้รับมรดกจากบิดามารดา จำเลยอาศัยโจทก์ทำ บัดนี้โจทก์ต้อการคืนจำเลยไม่ยอม จึงขอให้ศาลพิพากษาว่านาพิพาทเป็นของโจทก์และขับไล่จำเลยและบริวาร
จำเลยต่อสู้ว่าไม่เคยขออาศัยโจทก์
ศาลชั้นต้นเชื่อว่าบิดาโจทก์ได้ฝากนาพิพาทไว้แก่มารดาจำเลย ต่อมาบิดาโจทก์ตายนาพิพาทตกได้แก่โจทก์ พิพากษาว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ให้จำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท
จำเลยอุทธรณ์ใจความสำคัญว่าตามฟ้องโจทก์ไม่ปรากฏว่าโจทก์เป็นหญิงหม้ายเมื่อโจทก์ไม่ได้รับความยินยอมจากสามีให้ดำเนินคดี ฟ้องโจทก์จึงไม่สมบูรณ์ ศาลรับไว้พิจารณาไม่ได้
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์เป็นหญิงมีสามี แต่ไม่ปรากฏว่าสามีตายหรือยังมีชีวิตอยู่ จึงให้ศาลชั้นต้นสอบสวนในเรื่องความสามารถของโจทก์ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๕๖
ศาลชั้นต้นถามโจทก์ ๆ แถลงว่าสามีโจทก์ตายมา ๑๐ ปีเศษเวลานี้โจทก์ไม่มีสามี จำเลยรับว่าเป็นความจริง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นพิพากษาชอบแล้วพิพากษายืน
จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อ ก.ม.ว่าศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้ศาลชั้นต้นสอบสวนเรื่องความสามารถของโจทก์เพราะโจทก์ไม่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลทำการสอบสวนในเรื่องความสามารถของคู่ความ
ศาลฎีกาเห็นว่าศาลอุทธรณ์มีอำนาจที่จะสั่งให้ศาลชั้นต้นสอบสวนเรื่องความสามารถของโจทก์ได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.๕๖ วรรค ๒ เมื่อเป็นที่พอใจว่า มีการบกพร่องในเรื่องความสามารถของคู่ความ แม้โจทก์ไม่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลทำการสอบสวนก็ตาม พิพากษายืน.

Share