คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่คู่ความตกลงกันเกี่ยวกับการที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอย่างไร ก็ย่อมมีผลบังคับได้
เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านข้อที่ว่า’การท้าประเด็นจะต้องทำต่อหน้าคู่ความ’มาเสียแต่ชั้นต้นแล้วจะมากล่าวอ้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์กับนายสัมพันธ์พี่ชายได้รับมรดกที่นาจากบิดามารดา1 แปลงต่อมาได้มอบให้นายพรมและจำเลยอาศัยทำกินปีนี้จำเลยฟ้องหาว่านายพรมบุกรุกที่พิพาทอ้างว่าเป็นของจำเลยจึงขอให้ขับไล่จำเลยต่อสู้ว่าซื้อนาจากบิดาโจทก์ซึ่งเป็นน้องเขยและรับโจทก์กับพี่ชายมาเลี้ยง พอจำเลยป่วยโจทก์ลักสัญญาซื้อขายนาไปแล้วนายพรมบุกรุกเข้าทำนาพิพาท

วันนัดสืบพยานโจทก์ ทนายโจทก์ยื่นคำร้องและแถลงว่าโจทก์ป่วยหนักมาศาลไม่ได้ จำเลยค้านว่าไม่ป่วย จึงท้าประเด็นกันให้นายแพทย์ไปตรวจถ้าแพทย์เบิกความสมข้างใด ฝ่ายนั้นชนะคดี

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าแพทย์เบิกความสมโจทก์ พิพากษาว่าที่นาพิพาทเป็นของโจทก์กับนายสัมพันธ์ ให้ขับไล่จำเลย

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกาในข้อกฎหมายว่าคำท้าของคู่ความไม่เป็นประเด็นแห่งคดี และการท้าประเด็นนี้ต้องทำต่อหน้าคู่ความทนายจะทำแทนไม่ได้

ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์จำเลยตกลงกันเกี่ยวกับการที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอย่างไร จึงมีผลบังคับได้ ส่วนข้อที่ว่าการท้าการนำสืบจะต้องทำต่อหน้าคู่ความทนายทำแทนไม่ได้นั้นศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ไม่คัดค้านข้อนี้มาแต่ต้นจะมายกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่

พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง

Share