คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1704/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าซ่อมอาคารโรงเรียนเป็นเงิน 20,125 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่วมกันใช้เงินให้แก่โจทก์ตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เสร็จแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าศาลชั้นต้นกำหนดมาสูงเกินกว่าปกติ และความชำรุดบกพร่องเกิดจากแบบแปลนของโจทก์ไม่ดีด้วยพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน 10,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะใช้เสร็จแก่โจทก์ เป็นการแก้ไขเฉพาะจำนวนเงินค่าซ่อมให้น้อยลงจากค่าซ่อมอาคารโรงเรียนที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ ๑ ชดใช้ค่าเสียหายที่ก่อสร้างอาคารเรียนโรงเรียนเทศบาล ๒ ของโจทก์ไม่เรียบร้อยเป็นเงิน ๒๐,๑๒๕ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อย ๗ ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้อง และบังคับจำเลยที่ ๒ ในฐานะผู้ค้ำประกันให้รับผิดร่วมด้วย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธอ้างว่าจำเลยที่ ๑ ได้ทำตามแบบแปลนทุกประการ และได้ทำตามหลักวิชาช่างที่ดี แบบแปลนของโจทก์ไม่ดีเอง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม ความชำรุดเสียหายของอาคารเกิดจากฝ่ายจำเลยทำไว้ไม่เรียบร้อย พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินให้แก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าค่าเสียหายที่ศาลชั้นต้นกำหนดนั้นสูงกว่าปกติจึงกำหนดให้ใหม่เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยตามขอ
โจทก์และจำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นเห็นว่าศาลอุทธรณ์แก้ไขมากจึงสั่งรับเป็นฎีกาขึ้นมา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาคดีแล้ว คดีนี้โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าซ่อมอาคารโรงเรียนเป็นเงิน ๒๐,๑๒๕ บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน ๒๐,๑๒๕ บาทพร้อมกับดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จให้โจทก์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าค่าเสียหายที่ศาลชั้นต้นกำหนดมาสูงเกินกว่าปกติและความชำรุดบกพร่องเกิดจากแบบแปลนของโจทก์ไม่ดีด้วย พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน ๑๐,๐๐๐ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์เป็นการแก้ไขเฉพาะจำนวนเงินค่าซ่อมให้น้อยลงจากค่าซ่อมอาคารโรงเรียนที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ ถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๑๘
พิพากษายกฎีกาโจทก์และจำเลยทั้งสอง

Share