แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้จำเลยที่ 1 จะแทงผู้ตายเพียงทีเดียว และไม่ปรากฏความยาวของมีดพกที่ใช้แทง แต่ที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่างจำเลยที่ 1 แทงหน้าอกซ้ายซึ่งเป็นที่สำคัญโดยมีโอกาสเลือกแทง และตามรายงานชันสูตรพลิกศพไม่ได้บันทึกความลึกของบาดแผล แต่ว่าระบบการไหลเวียนของเส้นเลือดล้มเหลวแสดงว่าแทงอย่างแรงจนเส้นเลือดขาด ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่าผู้ตาย
การที่จำเลยที่ 3 พาพวกคือจำเลยที่ 1 มีมีดพกปลายแหลมกับพวกอีกคนหนึ่งซึ่งมีมีดดาบเป็นอาวุธเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุแล้วชี้หน้าผู้ตายเป็นลักษณะบอกพวกให้เข้าทำร้ายผู้ตาย เมื่อผู้ตายถูกจำเลยที่ 1 แทงจนถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 3 จึงเป็นตัวการผู้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามขอให้ลงโทษฐานเป็นตัวการร่วมกันฆ่านายอู๋ถึงแก่ความตายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 3 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 83 จำคุกจำเลยที่ 1 ยี่สิบปี จำเลยที่ 3 เจ็ดปีหกเดือน ยกฟ้องจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 1 ที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 3
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อเวลาประมาณ 23 นาฬิกาขณะที่ผู้ตายกับพวกนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกของซ่องโสเภณี จำเลยทั้งสามเข้ามาจำเลยที่ 3 ชี้หน้าผู้ตายพร้อมกับตรงเข้าชกผู้ตาย ผู้ตายชกจำเลยที่ 3 ล้มลง จำเลยที่ 1 ใช้มีดพกปลายแหลมแทงผู้ตายที่หน้าอกซ้าย 1 ที ผู้ตายวิ่งออกไปนอนฟุบอยู่ที่ทางเดินห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร พวกของผู้ตายออกไปพบและนำส่งโรงพยาบาล พอถึงโรงพยาบาลผู้ตายก็ถึงแก่ความตายในคืนนั้น ซึ่งแม้จำเลยที่ 1 จะแทงผู้ตายเพียงทีเดียวและไม่ปรากฏความยาวของมีดพกที่ใช้แทง แต่ที่เกิดเหตุมีแสงไฟสว่าง จำเลยที่ 1 แทงหน้าอกซ้ายซึ่งเป็นที่สำคัญโดยมีโอกาสเลือกแทง และตามรายงานชันสูตรพลิกศพไม่ได้บันทึกความลึกของบาดแผลแต่ว่าระบบการไหลเวียนของการไหลเวียนของเส้นเลือดล้มเหลวแสดงว่าแทงอย่างแรงจนเส้นเลือดขาด ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่าผู้ตาย และการที่จำเลยที่ 3 พาพวกคือจำเลยที่ 1 มีมีดปลายแหลมกับพวกอีกคนหนึ่งมีมีดดาบเป็นอาวุธเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุแล้วชี้หน้าผู้ตายเป็นลักษณะบอกพวกให้เข้าทำร้ายผู้ตาย เมื่อผู้ตายถูกจำเลยที่ 1 แทงจนถึงแก่ความตายจำเลยที่ 3 จึงเป็นตัวการผู้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาคดีจึงฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ร่วมกันฆ่านายอู๋ผู้ตายโดยเจตนา อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,83 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 ไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น