คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16251/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยติดต่อกับสายลับเพื่อจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนมาตั้งแต่ต้นโดยเป็นผู้พา ร. กับ ล. ไปเจรจาซื้อขายเมทแอมเฟตามีนกับเจ้าพนักงานตำรวจที่สถานีบริการน้ำมันและอยู่ด้วยโดยตลอด เมื่อตกลงซื้อขายกันแล้วจำเลยยังนั่งรถจักรยานยนต์ออกไปกับ ร. ตลอดจนยังชี้จุดส่งมอบยาเสพติดให้ผู้ล่อซื้อทราบ แสดงว่า จำเลยมีเจตนาร่วมกับ ร. กับ ล. มาตั้งแต่ต้น โดยมีลักษณะเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อให้การกระทำความผิดทั้งหมดสำเร็จลุล่วงไป แม้จำเลยไม่ได้ร่วมต่อรองราคาด้วยหรือเป็นผู้นำเมทแอมเฟตามีนมาส่งมอบแก่เจ้าพนักงานผู้ล่อซื้อโดยตรง ก็ถือได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดทั้งหมด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และริบเมทแอมเฟตามีน กระเป๋าสะพาย และรถจักรยานยนต์ของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วรรคสาม (2), 66 วรรคสาม ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 53 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 33 ปี 4 เดือน และปรับ 3,000,000 บาท คำให้การจำเลยชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 22 ปี 2 เดือน 20 วัน และปรับ 2,000,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 โดยให้กักขังเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 2 ปี ริบของกลาง ข้อหาอื่นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วรรคสาม (2), 66 วรรคสาม, 102 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากันให้ลงโทษฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนแต่บทเดียว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกตลอดชีวิต และปรับ 3,000,000 บาท ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 หนึ่งในสาม คงจำคุก 33 ปี 4 เดือน และปรับ 2,000,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายตามฟ้อง หรือเป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำเลยฎีกาว่า จำเลยเป็นเพียงผู้ติดต่อโดยหวังเพียงค่านายหน้า จำเลยไม่ได้เข้าร่วมเจรจาซื้อขายด้วยจำเลยไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ จำเลยไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุขณะที่มีการส่งมอบเมทแอมเฟตามีน คำเบิกความของพันตำรวจโทถนัดกับดาบตำรวจทวีทรัพย์ซึ่งไปรอรับเมทแอมเฟตามีนในที่เกิดเหตุเบิกความแตกต่างกันโดยพันตำรวจโทถนัดเบิกความว่า ระหว่างรอรับมอบเมทแอมเฟตามีนได้พูดคุยกับจำเลยเป็นเวลานาน แต่ดาบตำรวจทวีทรัพย์กลับเบิกความว่า ขณะนั้นไม่เห็นจำเลยในที่เกิดเหตุ เห็นว่า โจทก์มีพันตำรวจโทถนัดและดาบตำรวจทวีทรัพย์เจ้าพนักงานผู้ล่อซื้อเบิกความว่า เมื่อพยานโจทก์ทั้งสองกับสายลับไปที่สถานีบริการน้ำมันเพื่อพบกับพ่อค้ายาเสพติดตามที่นัดหมายไว้พบจำเลย นายรอแป และนายลอแปะรออยู่ จากนั้นได้พูดคุยตกลงซื้อขายเมทแอมเฟตามีนกันนายรอแปขอตรวจดูเงินและนัดหมายส่งมอบเมทแอมเฟตามีนในวันเดียวกันเวลาหลัง 20 นาฬิกา ที่ถนนสายดงมะดะ – เชียงราย หลักกิโลเมตรที่ 19 ถึง 20 จากนั้นจำเลย นายรอแปและนายลอแปะได้นั่งรถจักรยานยนต์ขับซ้อนท้ายออกไปด้วยกัน พันตำรวจโทถนัด ดาบตำรวจทวีทรัพย์และสายลับขับรถยนต์ตามไปดูจุดนัดหมายที่ถนนสายดงมะดะ – เชียงราย ถึงหลักกิโลเมตรที่ 19 ถึง 20 เห็นจำเลยยืนอยู่โดยมีเสื้อพาดอยู่บนหลักข้างทาง สายลับแจ้งว่าเป็นจุดส่งมอบยาเสพติด คำเบิกความของพันตำรวจโทถนัดและดาบตำรวจทวีทรัพย์ดังกล่าวมีบันทึกคำให้การชั้นสอบสวน ที่ทำขึ้นวันเดียวกับที่จำเลยถูกจับสนับสนุน โดยจำเลยเองก็ยอมรับว่าได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน 597 เชียงราย พานายรอแปไปที่สถานีบริการน้ำมัน และเมื่อตกลงซื้อขายเมทแอมเฟตามีนกันแล้ว จำเลยยังได้นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวที่นายรอแปเป็นผู้ขับไปในเขตอำเภอแม่ลาวและรออยู่บริเวณที่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุเจือสมกับทางนำสืบโจทก์ แสดงให้เห็นว่าขณะมีการเจรจาซื้อขายเมทแอมเฟตามีนรายนี้จำเลยร่วมอยู่ด้วยโดยตลอด นอกจากนี้โจทก์ยังมีพันตำรวจโทไกรวัลย์ พนักงานสอบสวนเบิกความสนับสนุนว่า หลังเกิดเหตุวันรุ่งขึ้นก็มีผู้พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน ขจย เชียงราย 597 ห่างจากจุดส่งมอบเมทแอมเฟตามีนเพียง 300 เมตร จึงให้เจ้าพนักงานตำรวจไปตรวจสอบพบสมุดบัญชีเงินฝากมีชื่อจำเลยในรถจึงออกหมายจับและต่อมาจับกุมจำเลยได้ ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ และนำชี้ที่เกิดเหตุไว้ ส่อแสดงว่าจำเลยได้ขับรถจักรยานยนต์ไปในที่เกิดเหตุด้วยเป็นเหตุให้พบรถจักรยานยนต์ของจำเลยจอดทิ้งอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งแม้ว่าเหตุการณ์ช่วงที่นายรอแปส่งมอบเมทแอมเฟตามีนให้พันตำรวจโทถนัดและเกิดยิงต่อสู้กันนั้นดาบตำรวจทวีทรัพย์และพยานโจทก์ปากอื่นซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจที่ไปซุ่มจับกุมอยู่ด้วยขณะส่งมอบยาเสพติดจะไม่ได้เบิกความว่า พบเห็นจำเลยอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งไม่ตรงกับที่พันตำรวจโทถนัดเบิกความว่า ขณะจอดรถยนต์เพื่อรอนายรอแปมาส่งเมทแอมเฟตามีน พยานเห็นจำเลยกับสายลับยืนอยู่บริเวณนั้นก็ตาม คำเบิกความพยานโจทก์ดังกล่าวจึงยังถือไม่ได้ว่าขัดแย้งกันจนมีพิรุธอย่างที่จำเลยอ้าง พฤติการณ์การกระทำของจำเลยที่โจทก์นำสืบเป็นการกระทำต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ต้นไม่ว่าจะเป็นการที่จำเลยติดต่อกับสายลับเพื่อจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนมาตั้งแต่ต้นโดยเป็นผู้พานายรอแปกับนายลอแปะไปเจรจาซื้อขายเมทแอมเฟตามีนกับเจ้าพนักงานตำรวจที่สถานีบริการน้ำมันและอยู่ด้วยโดยตลอด เมื่อตกลงซื้อขายกันแล้วจำเลยยังนั่งรถจักรยานยนต์ออกไปกับนายรอแป ตลอดจนยังพาดเสื้อชี้จุดส่งมอบยาเสพติดให้ผู้ล่อซื้อทราบ หลังเกิดเหตุก็ยังพบรถจักรยานยนต์ที่จำเลยใช้จอดอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เมื่อพิจารณาประกอบกันโดยตลอดแล้วมีน้ำหนักมั่นคงให้รับฟังได้ว่า จำเลยมีเจตนาร่วมกับนายรอแปและนายลอแปะมาตั้งแต่ต้น พฤติการณ์การกระทำของนายรอแปกับจำเลยมีลักษณะเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อให้การกระทำความผิดทั้งหมดสำเร็จลุล่วงไป แม้ทางนำสืบข้อเท็จจริงจะไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ร่วมต่อรองราคาด้วยหรือเป็นผู้นำเมทแอมเฟตามีนมาส่งมอบแก่เจ้าพนักงานผู้ล่อซื้อโดยตรง ก็ถือได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดทั้งหมดตามฟ้องดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 วินิจฉัยมา หาใช่เป็นเพียงผู้สนับสนุนในความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนดังที่จำเลยฎีกาไม่ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share