คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1622/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะหนึ่งได้นั่งฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาของคู่ความครั้งหนึ่งแล้ว ศาลอุทธรณ์ก็ยังมีอำนาจนัดฟังคำแถลงการณ์ใหม่ เพื่อแก้ข้อขัดข้องในการดำเนินกระบวนพิจารณาได้ เมื่อได้นัดใหม่แล้วคู่ความมิได้มาแถลง ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะใหม่ก็ชอบที่จะปรึกษาและตัดสินคดีไปได้ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 183

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑,๒,๓ เป็นข้าราชการมีหน้าที่เกี่ยวกับการรบ และถูกใช้ให้มีหน้าที่จัดหาที่ตั้งนิคมทหารอากาศ จำเลยที่ ๔ เป็นราษฎร ได้บุกรุกเข้าไปและนำรถแทร็คเตอร์เข้าล้มต้นไม้ในที่ดินของโจทก์ กับขัดขวางมิให้คนงานของโจทก์นำรถเข้าไปไถทำให้ต้นผลไม้ตาย และโจทก์ไม่สามารถจะทำประโยชน์ในที่ดินได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗,๓๖๒,๓๖๔,๓๕๘,๓๕๙,๘๓,๙๑,๓๓ และริบรถแทร็กเตอร์
จำเลยทั้ง ๔ ให้การปฏิเสธตลอดข้อหา
ศาลจังหวัดสระบุรีพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ซึ่งมีข้อหนึ่งว่า คดีนี้ ศาลอุทธรณ์ได้นั่งฟังคำแถลงการณ์ไปครั้งหนึ่งแล้วกลับนัดฟังใหม่อีก และผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งเป็นองค์คณะทำคำพิพากษาเป็นผู้พิพากษาคณะใหม่ ไม่ใช่คณะที่ได้นั่งฟังคำแถลงการณ์ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงเป็นคำพิพากษาที่ไม่ชอบ โดยข้อต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๘๓
ข้อนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลอุทธรณ์ได้นั่งฟังคำแถลงการณ์ด้วยวาจาของโจทก์ จำเลยแล้วครั้งหนึ่งจริง แต่เมื่อศาลอุทธรณ์นัดฟังคำแถลงการณ์ใหม่ คู่ความมิได้มาแถลง ดังนี้ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะใหม่ย่อมพิพากษาคดีไปได้ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๘+ ดังที่โจทก์อ้าง เพราะการนัดให้คู่ความมาแถลงการณ์ใหม่เป็นการแก้ข้อขัดข้องในการดำเนินกระบวนพิจารณา ศาลย่อมทำได้ในเมื่อไม่มีกฎหมายห้ามไว้ เมื่อคู่ความไม่มาแถลงการณ์ตามที่นัดใหม่ ผู้พิพากษาคณะใหม่ก็ชอบที่จะปรึกษาตัดสินคดีไปได้ ดังฎีกาที่ ๖๘๘/๒๔๗๗
เมื่อวินิจฉัยข้ออื่นแล้ว พิพากษายืน

Share