แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยทำผิดเข้าไปลักปืนและยิงคน แต่ผู้เชี่ยวชาญทางนิติจิตเวชตรวจรักษาจำเลยอยู่ 9 เดือนเบิกความว่าจำเลยวิกลจริตมา 4 ปีขณะทำผิดไม่รู้ผิดชอบ ดังนี้รับฟังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา65 ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 25 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 295, 358 กับให้ใช้ทรัพย์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาว่าจำเลยกระทำความผิดในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบ หรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ เพราะมีจิตบกพร่อง โรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือนหรือไม่นั้น คดีได้ความว่า ขณะที่จำเลยถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำระหว่างพิจารณาคดี นายแพทย์ศิริพันธุ์ จาตุรงคกุล นายแพทย์ใหญ่จังหวัดพิเศษ มีความเห็นว่า จำเลยมีอาการป่วยทางโรคจิต จึงส่งจำเลยไปตรวจที่โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมา และนายแพทย์วิศักดิ์ สาตรา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวช นครราชสีมา ก็มีความเห็นว่า จำเลยมีอาการป่วยทางโรคจิตสมควรที่จะส่งตัวจำเลยไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนิติจิตเวช กรุงเทพมหานคร จากนั้นจึงมีการส่งตัวจำเลยไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนิติจิตเวช กรุงเทพมหานครซึ่งนายแพทย์สุรินทร์ ปืนรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนิติจิตเวช กรุงเทพมหานครได้ทำการรักษาจำเลยเป็นเวลา 9 เดือนเศษ จำเลยจึงมีอาการทางจิตสงบพอต่อสู้คดีได้ปรากฏว่านายแพทย์สุรินทร์ได้ศึกษาทางจิตเวช และเคยเป็นนายแพทย์ประจำโรงพยาบาลทางจิตเวชมานานถึง 25 ปี และได้จดทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญทางนิติจิตเวชที่กระทรวงยุติธรรมด้วย จึงฟังได้ว่านายแพทย์สุรินทร์เป็นผู้เชี่ยวชาญทางนิติจิตเวช เมื่อนายแพทย์สุรินทร์มาเบิกความต่อศาลว่า จำเลยวิกลจริตมา5 ปีแล้ว และขณะกระทำความผิด จำเลยไม่มีความรู้สึกผิดชอบจึงมีน้ำหนักรับฟังได้ คำเบิกความของนายพีระชัย วัชรพิชัย เด็กชายลำนอง เพชรเกษม นางนกน้อยวัชรพิชัย และร้อยตำรวจเอกทรงกฤช อินทะทำมา พนักงานสอบสวน พยานโจทก์ที่กล่าวถึงอาการของจำเลยขณะกระทำผิดและระหว่างสอบสวนไม่มีความรู้ในอาการป่วยของจำเลย จึงไม่อาจหักล้างความเห็นของนายแพทย์สุรินทร์ดังกล่าวได้ ที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยกระทำความผิดในขณะไม่สามารถรู้ผิดชอบ หรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ เพราะมีจิตบกพร่อง โรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือน และไม่ต้องรับโทษนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน