แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ในกรณีที่โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุก ขอให้ลงโทษจำเลยฐานบุกรุกและให้จำเลยออกไปจากที่พิพาทตลอดจนชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์นั้น เมื่อคำพิพากษาส่วนอาญาศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้เป็นที่ยุติแล้วว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ ดังนี้ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลฎีกาก็จำต้องถือตาม จะฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นหาได้ไม่(อ้างฎีกาที่ 1172/2513)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า สวน 1 แปลงเนื้อที่ 1 ไร่ ส.ค.1 เลขที่ 21 อยู่ที่บ้านส่องตำบลดอน อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา เป็นของโจทก์ ต่อมาปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ยึดถือ ส.ค.1 ไว้ โจทก์ไม่ทราบว่าได้มาอย่างไร โจทก์มิได้ขายที่ดังกล่าวแก่จำเลยที่ 1 เมื่อวันใดไม่ปรากฏระหว่างวันที่ 10 ถึงวันที่ 31พฤษภาคม 2518 เวลากลางวัน จำเลยที่ 2 บุกรุกเข้าไปปลูกพริก มะเขือข้าวโพด และแตงกวา เป็นเนื้อที่ประมาณ 2 งาน โดยจำเลยที่ 1 ใช้ให้ทำเพื่อถือการครอบครองเป็นเจ้าของ เป็นการรบกวนการครอบครองของโจทก์โดยปกติสุข ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362, 83 ให้จำเลยทั้งสองออกไปจากที่พิพาท คืน ส.ค.1 ให้โจทก์ และร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
จำเลยทั้งสองให้การว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยที่ 1 โดยซื้อจากโจทก์ราคา 20,000 บาท จำเลยที่ 1 ครอบครองทำประโยชน์ในที่พิพาทตลอดมาจนถึง พ.ศ. 2518 ได้ให้จำเลยที่ 2 เข้าทำประโยชน์แทน
ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 2 ตาย คดีอาญาสำหรับจำเลยที่ 2 จึงระงับไปสำหรับคดีแพ่ง ไม่มีผู้ใดเข้ามาเป็นคู่ความแทน ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีสำหรับจำเลยที่ 2
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าโจทก์ขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 1แล้วที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ปัญหาที่โจทก์ยกขึ้นอุทธรณ์ในคดีอาญาเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ จึงไม่ต้องวินิจฉัย สำหรับคดีแพ่ง พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาเฉพาะคดีแพ่งว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 เมื่อข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา ซึ่งศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้เป็นยุติแล้วมีว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ศาลฎีกาก็จำต้องถือตามจะฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นหาได้ไม่
พิพากษายืน