คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่โจทก์ถูกบิดาของผู้ตายฟ้องให้รับผิดร่วมกับจำเลยในผลแห่งละเมิดซึ่งจำเลยกระทำไปในทางการที่จ้างและโจทก์ผู้ซึ่งเป็นนายจ้างต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนพร้อมด้วยดอกเบี้ยและใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนให้บิดาของผู้ตายไปแล้วค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งศาลสั่งให้ใช้แทนเนื่องจากโจทก์ต่อสู้คดีและเป็นฝ่ายแพ้คดีนั้น ไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนอันเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิด จึงไล่เบี้ยให้จำเลยชดใช้ให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 426 ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นลูกจ้างของโจทก์ ได้ขับรถโดยประมาทชนนายรัฐพรถึงแก่ความตาย โจทก์ได้ชดใช้ค่าเสียหาย 50,000 บาทรวมทั้งดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 59,118 บาทซึ่งจำเลยจะต้องรับผิด จึงขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้เงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยขาดนัดยื่นให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในเงินดังกล่าว ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์

โจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยต้องรับผิดชดใช้ดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมที่โจทก์ชำระให้บิดาผู้ตายตามคำพิพากษาด้วย

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายและดอกเบี้ยรวมจำนวน 57,083 บาทแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 57,083 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาว่า จำเลยต้องชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียม 2,035 บาทให้โจทก์ด้วย

ศาลฎีกาเห็นว่า ในคดีที่โจทก์ถูกบิดาผู้ตายฟ้องนั้น หากโจทก์ยอมใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บิดาผู้ตายก่อนถูกฟ้องแล้ว โจทก์ก็ไม่ต้องรับผิดเสียค่าฤชาธรรมเนียมแต่อย่างใด ค่าฤชาธรรมเนียมจึงไม่ใช่ค่าสินไหมทดแทนอันเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิดของจำเลย โจทก์จะไล่เบี้ยให้จำเลยชดใช้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 426 ไม่ได้

พิพากษายืน

Share