คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69 บัญญัติเป็นพิเศษให้ผู้ครอบครองไม้ประเภทหวงห้ามซึ่งยังมิได้แปรรูปและไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับ อันมีรูปลักษณะซึ่งเห็นได้ชัดว่าน่าจะเป็นไม้ป่านั้น เป็นผู้นำสืบพิสูจน์หักล้างความผิดคือสืบว่าตนได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยต่อสู้ว่า ซื้อไม้ดังกล่าวไว้โดยสุจริตจากผู้ซึ่งได้ตัดไม้นั้นมาจากที่ดินตามใบเหยียบย่ำ เมื่อสืบฟังได้แต่เพียงว่า ซื้อไม้นั้นไว้จากผู้มีชื่อ ส่วนการที่ได้ตัดไม้นั้นจากที่ดินตามใบเหยียบย่ำนั้นสืบฟังไม่ได้ดังนี้ จำเลยยังไม่พ้นผิด คงต้องมีความผิดตามมาตรา 69

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีไม้ประเภทหวงห้ามที่ยังมิได้แปรรูป ทั้งมิได้มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับไว้ในครอบครองของจำเลย เพื่อทำการค้า รวมทั้งสิ้น 2,204 ท่อน จะต้องเสียค่าภาคหลวง 773 บาท 15 สตางค์ โดยจำเลยพิสูจนnไม่ได้ว่า ได้ไม้นั้นมาโดยชอบด้วยกฎหมายขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484

จำเลยต่อสู้ว่า ได้ซื้อไม้เสาเหล่านี้ไว้โดยสุจริตจากผู้ซึ่งได้มาโดยชอบด้วยพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 4

ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลย 200 บาทตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484มาตรา 69 ริบไม้หวงห้าม

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยพิสูจน์ได้ว่าจำเลยได้ซื้อไม้ไว้จากนายเพ็ชร นายแรม ซึ่งตัดจากที่ที่ได้รับใบเหยียบย่ำโดยชอบไม่เป็นผิด พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยอ้างและนำสืบว่า ซื้อไม้เสาเหล่านี้มาจากนายเพ็ชร นายแรม ซึ่งนายเพ็ชร นายแรม อ้างว่า ตัดจากที่ดินตามใบเหยียบย่ำของตนนั้น ทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่า ไม้เหล่านี้ตัดมาจากที่ที่นายเพ็ชร นายแรม ได้รับใบเหยียบย่ำ จึงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ไม้เหล่านี้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 69

จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share