คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1553/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับพวกร่วมกันใช้มีดดาบปลายแหลมผลัดกันฟันและแทงผู้ตายมีบาดแผลราวม 17 แผล และตายในที่เกิดเหตุขณะนั้นเอง ไม่ปรากฏว่าได้ใช้มีดดาบฆ่าผู้ตายในลักษณะอื่นใดเป็นพิเศษ แม้ผู้ตายจะมีบาดแผลมากมายหลายแห่ง ก็เป็นที่เห็นเจตนาได้ว่า ต้องการฟันและแทงผู้ตายให้ถึงแก่ความตายในทันทีเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการฆ่าโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ ใช้ โดยจ้างหรือวานนายชูชาติ หรืออ้อ มณีงาม ซึ่งได้แยกไปดำเนินคดีที่ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลาง กับจำเลยที่ ๑ และพวกอีกหนึ่งคนที่ยังหลบหนีจับตัวไม่ได้ ให้ร่วมกันฆ่านายเสน่ห์ ทองคำ สามีของจำเลยที่ ๒ เอง โดยจำเลยที่ ๒ เป็นผู้ลวงนายเสน่ห์ไปพบนายชูชาติกับจำเลยที่ ๑ และพวกที่กล่าว และจำเลยทั้งสองกับนายชูชาติและพวกโดยไตร่ตรองไว้ก่อนได้ร่วมกันใช้มีดดาบยาวประมาณ ๑ ศอกเป็นอาวุธผลัดกันฟันและแทงนายเสน่ห์หลายสิบครั้งโดยเจตนาฆ่าและโดยทรมานและกระทำทารุณโหดร้ายจนนายเสน่ห์ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘,๒๘๙,๘๓,๘๔ และริบมีดดาบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
นายสนั่น ทองคำ บิดาผู้ตายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต
เมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วจำเลยที่ ๑ ขอถอนคำให้การเดิม ขอรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยที่ ๑ ร่วมกับนายชูชาติและพวกฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและโดยกระทำทารุณโหดร้ายและทรมาน จำเลยที่ ๒ ร่วมกับนายชูชาติฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่จำเลยที่ ๒ ไม่ได้ร่วมกับนายชูชาติและพวกฆ่าผู้ตายโดยทรมานและกระทำทารุณโหดร้าย พิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๔)(๕),๘๓ จำเลยที่ ๒ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๔),๘๓,๘๔ ให้วางโทษประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง แม้จำเลยที่ ๒ อายุ ๑๘ ปี ก็มีสามีและบุตรแล้ว ๒ คนย่อมรู้ผิดชอบดีแล้วไม่เห็นสมควรลดมาตราส่วนโทษให้ จำเลยที่ ๒ รับสารภาพเมื่อสืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของศาลอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลยที่ ๒ มีกำหนดยี่สิบปี ให้ยกคำขอริบมีดดาบของกลาง เพราะศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางได้พิพากษาให้ริบมีดดาบของกลางในคดีเรื่องนี้ไปแล้ว
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ ๑ ไม่ได้ร่วมกับนายชูชาติและพวกฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยที่ ๑ ได้ร่วมกับนายชูชาติและพวกฆ่าผู้ตายโดยทรมานและโดยกระทำทารุณโหดร้ายพิพากษาว่าแก้เป็นว่าจำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ (๕),๘๓ วางโทษประหารชีวิตจำเลยที่ ๑ คำให้การของจำเลยที่ ๑ ในชั้นจับกุมและสอบสวนกับคำเบิกความของจำเลยที่ ๑ ในชั้นศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยที่ ๑ หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ประกอบด้วยมาตรา ๕๒ คงจำคุกจำเลยที่ ๑ ตลอดชีวิต นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่า จำเลยที่ ๑ นายชูชาติ และพวกร่วมกันใช้มีดดาบปลายแหลมผลัดกันฟันและแทงผู้ตายไปตามปกติธรรมดา ผู้ตายมีบาดแผลตามรายงานการชันสูตรพลิกศพรวม ๑๗ แผล และตายในที่เกิดเหตุขณะนั้นเอง ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ ๑ กับพวกได้ใช้มีดดาบฆ่าผู้ตายในลักษณะอื่นใดเป็นพิเศษ แม้ผู้ตายจะมีบาดแผลมากมายหลายแห่ง ก็เห็นเจตนาของจำเลยที่ ๑ กับพวกได้ว่า ต้องการฟันและแทงผู้ตายให้ถึงแก่ความตายในทันทีเท่านั้น การกระทำของจำเลยที่ ๑ กับนายชูชาติและพวกยังไม่พอฟังว่าจำเลยที่ ๑ กับนายชูชาติและพวกได้ร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหด ดังข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ ,๘๓ วางโทษประหารชีวิต คำให้การของจำเลยที่ ๑ ในชั้นจับกุมและสอบสวนกับคำเบิกความของจำเลยที่ ๑ ในชั้นศาลเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยที่ ๑ หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ประกอบด้วยมาตรา ๕๒ (๑) ที่ใช้ในขณะกระทำความผิดเป็นจำคุกจำเลยที่ ๑ ยี่สิบปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share