คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไถ่การขายฝากที่ดินไม่มีโฉนดและโรงเรือน ไม่มีกฎหมายให้ทำตามแบบอย่างไร แม้ไม่จดทะเบียนการไถ่ก็ไม่เป็นโมฆะ และผูกพันผู้ซื้อผู้ขายได้ ผู้ซื้อจะขับไล่ผู้ขายไม่ได้

ย่อยาว

จำเลยจดทะเบียนขายฝากที่ดินไม่มีโฉนด และโรงเรือนไว้กับโจทก์5,000 บาท จำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินและโรงเรือนโจทก์ ในระหว่างอายุสัญญาขายฝาก โจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนทำหินกัน โดยตกลงเอาเงินที่โจทก์ซื้อฝาก 5,000 บาท เป็นค่าหุ้นส่วนของโจทก์ แล้วยอมคืนที่ดินและเรือนให้จำเลย แต่ไม่ได้จดทะเบียนการไถ่คืน โจทก์มาฟ้องขับไล่จำเลยอ้างว่าพ้นเวลาไถ่คืนตามสัญญาแล้ว และจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาพิพากษายืน โดยวินิจฉัยข้อกฎหมายตามฎีกาดังนี้

ฯลฯ “ส่วนปัญหาข้อกฎหมายที่โจทก์ฎีกาว่า กรณีเช่นนี้มีกฎหมายบังคับไว้ชัดแจ้ง ถึงการเปลี่ยนแปลงระงับและกลับคืนมาแห่งทรัพย์สินอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้น มาตรา 1299 และ 1300 บัญญัติว่าการได้มาโดยนิติกรรมซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือทรัพย์สินอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่บริบูรณ์ เว้นแต่จะได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน การได้มาพบกับพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯลฯ ดังนี้ การที่จำเลยขายฝากที่ดินกับเรือนให้แก่โจทก์โดยได้ทำการจดทะเบียนการขายฝากไว้ต่อเจ้าหน้าที่โดยถูกต้องแล้ว เมื่อจำเลยอ้างว่าได้มีการไถ่การขายฝากแล้ว จำเลยก็ต้องไปขอจดทะเบียนไถ่การขายฝากต่อพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าการไถ่ทรัพย์ที่ขายฝากไม่มีกฎหมายบังคับว่า ต้องทำตามแบบ หรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือแต่อย่างใดจึงเป็นเรื่องที่จะนำพยานบุคคลเข้าสืบได้ ไม่ขัดกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 แม้ทรัพย์สิทธิกลับคืนมายังไม่บริบูรณ์แต่ก็ไม่มีอะไรบัญญัติว่าข้อตกลงระหว่างกันเองเป็นโมฆะ จึงผูกพันโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่สัญญาได้ โดยนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 1275/2494 ระหว่างนายเยื้อง ดอกเดื่อ ในฐานะส่วนตัวและรับมอบอำนาจจากนางยา ดอกเดื่อ โจทก์ นายเหล็ง สรรค์วงษ์ จำเลยและคำพิพากษาฎีกาที่ 1479/2495 ระหว่าง นายเหลือ มหาศิริพันธ์โจทก์ นายตัน บุทเสน จำเลย และคำพิพากษาฎีกาที่ 253/2496 ระหว่างนายดัด นาควานิช โจทก์ นางหม้อน้ำ ฉิวพันธ์ ผู้รับมรดกนางตัวเอียดกับพวก จำเลย ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์เสียนั้นชอบแล้ว”

Share