แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยสมคบกันใช้อาวุธและวาจาขู่เข็ญให้เจ้าทรัพย์จ่ายเงินค่าสลากกินรวบซึ่งจำเลยถูกสลากและเจ้าทรัพย์เป็นเจ้ามือนั้น เป็นเรื่องที่จำเลยมุ่งหมายจะเอาทรัพย์ที่จำเลยเข้าใจว่าจำเลยควรจะได้ ไม่มีเ+ยยจิตต์จะสักทรัพย์ ไม่เป็นความผิดฐานชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันปล้นทรัพย์นายบุญแล้ววิเชียรรัตน์ ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การต่อสู้ว่นายบุญแก้วเป็นเจ้ามือสลากกินรวบ จำเลยไปทวงเงินค่าถูกสลาก ไม่ได้ปล้น
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยไปพูดเอาเงินนายบุญแก้วไปจริง เห็นว่าแม้จะเป็นเรื่องเรียกเอาเงินเกี่ยวกับเบอร์สลากกินรวมก็ตาม ก็เป็นเรื่องผิด ก.ม. จำเลยไม่มีสิทธิเช่นนั้น เมื่อปรากฎว่าจำเลยพูดขู่และขัดอาวุธมาขู่ให้นายบุญแก้วจ่ายเงิน จำเลยย่อมมีความผิดฐานปล้นทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.๓๐๑ ที่แก้ไขแล้ว พิพากษาให้จำคุกคนละ ๑๐ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาลักทรัพย์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเชื่อข้อเท็จจริงว่าจำเลยถูกสลากกินรวบซึ่งนายบุญแก้วเป็นเจ้ามือ แล้วจะไปเอาเงินจากนายบุญแก้วแม้จำเลยจะมีอาวุธและใช้วาจาขู่เข็ญก็เป็นเรื่องที่จำเลยมุ่งจะเอาเงินที่จำเลยเข้าใจว่าจำเลยควรจะได้ ไม่มีเถยยจิตต์จะลักทรัพย์ไม่มีความผิดฐานชิงทรัพย์หรือปล้น