คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การกระทำโดยบันดาลโทสะเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ การที่ผู้ตายละทิ้งจำเลยไปมีภรรยาใหม่ แล้วเสพสุรามึนเมามาหาจำเลยที่บ้าน เพื่อจะนำบุตรไปอยู่กับภรรยาใหม่ของผู้ตายเมื่อจำเลยไม่ยินยอม ก็ทำร้ายตบตีจำเลย ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม เมื่อจำเลยใช้มีดพร้าฟันศีรษะผู้ตายในขณะนั้นจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้จำคุก 2 ปี จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “แต่โดยเหตุที่คดีได้ความจากคำเบิกความของนายเอิ้มพยานโจทก์ซึ่งเป็นบิดาของผู้ตายว่าผู้ตายชอบดื่มสุรา ประพฤติตนเป็นนักเลงในหมู่บ้าน มีเรื่องทะเลาะกับจำเลยบ่อย และชอบเตะตีจำเลยเป็นประจำ ส่วนจำเลยเป็นบุคคลที่มีอารมณ์เยือกเย็น หาเลี้ยงดูบุตรเป็นอย่างดี และเป็นที่รักใครของคนทั่วไปในละแวกนั้น เมื่อพิจารณาประกอบกับข้อเท็จจริงที่ได้ความว่า วันเกิดเหตุผู้ตายเสพสุรามึนเมามาที่บ้านจำเลยเพื่อจะนำบุตรไปอยู่กับภรรยาใหม่ แต่จำเลยไม่ยินยอมจึงเกิดทะเลาะกันแล้วเชื่อได้ว่าผู้ตายได้ตบตีจำเลยก่อนเช่นที่ผู้ตายเคยปฏิบัติดังที่จำเลยนำสืบ การที่ผู้ตายละทิ้งจำเลยไปมีภรรยาใหม่แล้วเสพสุรามึนเมามาหาจำเลยที่บ้าน เพื่อจะนำบุตรไปอยู่กับภรรยาใหม่ของผู้ตาย เมื่อจำเลยไม่ยินยอม ก็ทำร้ายตบตีจำเลยเช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเมื่อจำเลยใช้มีดพร้าฟันศีรษะผู้ตายในขณะนั้นโดยแรงเพียง 1 ครั้งการที่จำเลยฆ่าผู้ตายจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72 แม้ความข้อนี้จำเลยจะมิได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้เพราะเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 72 ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี จำเลยเป็นหญิงมีบุตรซึ่งเป็นผู้เยาว์ที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูถึง 2 คน ทั้งไม่ปรากฏว่าเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เมื่อได้คำนึงถึงพฤติการณ์แห่งคดีที่ได้ความว่า ผู้ตายเป็นฝ่ายประพฤติตนไม่ชอบ เพราะนอกจากจะละทิ้งจำเลยไปมีภรรยาใหม่แล้ว ยังจะนำบุตรของจำเลยไปอยู่กับภรรยาใหม่อีกเช่นนี้ จึงสมควรให้โอกาสแก่จำเลยได้กลับตัวโทษจำคุกจึงให้รอไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 มีกำหนด 3 ปีนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”

Share