แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อนได้หลงลืมมิได้ระบุพยานให้ถูกต้องตามกฎหมาย ครั้นล่วงเลยมา 2 วันโจทก์นึกได้รีบยื่นคำร้องขอระบุพยานโดยมีเหตุผลแสดงความสมควรเพราะความเข้าใจผิดเช่นนี้ เมื่อคำนึงว่าหากถ้าศาลอนุญาต คู่ความก็ไม่มีทางเสียรัดเสียเปรียบกัน ศาลก็อนุญาตให้ระบุพยานได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ยกนาแปลงหนึ่งให้จำเลยซึ่งเป็นบุตร ต่อมาจำเลยเนรคุณ จึงฟ้องเรียกนาคืน
จำเลยให้การต่อสู้คดี
เมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้วศาลนัดพิจารณาวันที่ 31 พฤษภาคม2499 โดยให้โจทก์เป็นฝ่ายสืบก่อน
ก่อนถึงวันนัด โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตระบุพยานและยื่นบัญชีระบุพยานด้วยคำร้องในวันที่ 29 พฤษภาคม 2499 ศาลชั้นต้นบันทึกว่าจะสั่งคำร้องในวันสืบพยาน
ครั้นถึงวันสืบพยาน ศาลสั่งว่าโจทก์ไม่ยื่นระบุพยานภายในกำหนดของกฎหมาย ซึ่งต้องยื่นในวันที่ 27 พฤษภาคม 2499 จึงสั่งไม่รับคำร้องของโจทก์ วันสั่งเป็นวันพิจารณา เมื่อศาลไม่อนุญาตโจทก์จึงนำสืบไม่ได้ จึงเท่ากับโจทก์ไม่มีพยานมาสืบจำเลยแถลงไม่ติดใจสืบพยาน จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ระบุพยานตามกำหนดเพราะความเข้าใจผิดคิดว่าได้ยื่นแล้ว เมื่อรู้ตัวว่ายังไม่ได้ยื่นก็รีบทำคำร้องขอยื่น ไม่ได้จงใจฝ่าฝืนทั้งเวลายื่นก็ล่วงเลยเวลาตามกฎหมายไปเพียง 2 วัน อนึ่งโจทก์เป็นฝ่ายสืบก่อน เมื่อโจทก์ยังไม่สืบจึงไม่มีทางเสียเปรียบ จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้รับบัญชีระบุพยาน และดำเนินการพิจารณาพิพากษา
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์