คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เหมืองพิพาทเป็นลำเหมืองที่จำเลยกับพวกช่วยกันขุดและจำเลยได้ครอบครองโดยใช้น้ำจากเหมืองพิพาทตลอดมา แม้โจทก์จะได้ครอบครองและแจ้งการครอบครองที่ดินของโจทก์ทั้งสองฟากเหมืองพิพาท ก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่จะถือได้ว่าเหมืองพิพาทเป็นของโจทก์
เมื่อโจทก์ได้ปิดกั้นลำเหมืองพิพาทเป็นเหตุให้พวกจำเลยไม่มีน้ำใช้ทำนาพวกจำเลยจึงได้รื้อออก เช่นนี้ เป็นการกระทำเพื่อป้องกันความเสียหายโดยชอบด้วยกฎหมาย แม้จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จำเลยหาต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้ขุดทำลายคันดินและขอนไม้ที่โจทก์ใช้ปิดเหมือง ทำให้น้ำในเหมืองของโจทก์ ลดระดับ ต่ำกว่าที่นาการทำนาไม่ได้ผล ขาดข้าวเปลือกที่ควรได้เป็นเงิน 6,000 บาท ขอให้ศาลพิพากษาว่าลำเหมืองพิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าไปเกี่ยวข้อง ให้จำเลยปิดลำเหมืองที่จำเลยทำลายให้เป็นไปตามสภาพเดิมและร่วมกันใช้ค่าเสียหาย 6,000 บาทแก่โจทก์

จำเลยให้การว่าเหมืองพิพาทเป็นเหมืองที่พวกจำเลยขุดขึ้นเพื่อเอาน้ำไปใช้ทำนา เมื่อโจทก์ปิดกั้น จำเลยจึงได้รื้อ เป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต

ศาลชั้นต้นเห็นว่า เหมืองพิพาทเป็นเหมืองที่พวกจำเลยขุดขึ้นการที่จำเลยรื้อที่ปิดกั้น ไม่ให้โจทก์ใช้น้ำจากลำเหมืองพิพาทเป็นการเลิกอนุญาตให้ใช้น้ำ แม้จะทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์ก็ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงเชื่อว่าเหมืองพิพาทเป็นเหมืองที่จำเลยกับราษฎรได้ร่วมกันขุดขึ้น และจำเลยได้ครอบครองโดยใช้น้ำจากเหมืองพิพาทตลอดมาตามข้อต่อสู้ของจำเลย แม้โจทก์จะได้ครอบครองและแจ้งการครอบครองที่ดินของโจทก์ทั้งสองฟากเหมืองพิพาท ก็ไม่ก่อให้เกิดสิทธิที่จะถือได้ว่าเหมืองพิพาทเป็นของโจทก์

เมื่อเหมืองพิพาทเป็นเหมืองที่จำเลยกับราษฎรได้ร่วมกันขุดขึ้น โจทก์ได้เอาไม้และดินปิดกั้นลำเหมือง เป็นเหตุให้จำเลยและราษฎรใช้น้ำในลำเหมืองดังกล่าวทำนาไม่ได้ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยและราษฎร การที่จำเลยและราษฎรได้รื้อไม้และดินที่โจทก์ได้ปิดกั้นลำเหมืองนี้ออก เพื่อจะได้ใช้น้ำในลำเหมืองทำนา จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันความเสียหายโดยชอบด้วยกฎหมาย การกระทำของจำเลยดังกล่าวหากก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จำเลยหาต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาคดีมาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืนให้ยกฎีกาโจทก์

Share