แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บ. กับ น. ไม่มีอาวุธ เข้ากลุ้มรุมชกต่อยจำเลยจำเลยใช้ปืนยิง น. หนึ่งนัดขณะที่ น. กอดหลังจำเลยน. ผละออกและเซไป จำเลยยิงซ้ำอีก กระสุนปืนถูกบริเวณคอและใต้ราวนมขวา แล้วจำเลยหันไปยิง บ. อีก2-3 นัด ในระยะกระชั้นชิดติดพันกันนั้นเองถูกที่เหนือนมและสีข้างน. และ บ. ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยดังนี้ เป็นฆ่าคนโดยเจตนาเพื่อป้องกันตน เกินสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2512 เวลากลางวัน จำเลยใช้อาวุธปืนยิงนายเนียน สุขอุดม และนายบรรพต สุขอุดม โดยเจตนาฆ่ากระสุนปืนถูกนายเนียนถึงแก่ความตายในขณะนั้นเอง และถูกนายบรรพตถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่ตำบลทุ่งสงขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
จำเลยให้การว่า ยิงนายเนียนและนายบรรพตเพื่อป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยกับผู้ตายวิวาทชกต่อยกันโดยผู้ตายไม่มีอาวุธแล้วจำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำคุก 20 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงน่าเชื่อตามที่จำเลยนำสืบว่า วันเกิดเหตุจำเลยขับรถสวนกันกับรถที่นายบรรพตผู้ตายคนหนึ่งขับนายบรรพตโบกมือให้จำเลยหยุดรถจำเลยเข้าใจว่านายเนียนจะใช้ค่าซ่อมรถที่รถของจำเลยถูกรถของนายบรรพตชนเอาก่อนวันเกิดเหตุเมื่อจำเลยหยุดรถแล้วถามว่า “ลุงจะให้ค่าซ่อมรถใช่ไหม” นายเนียนก็ว่าเข้ามาเอาซี จำเลยจึงเดินไปหา ก็ถูกนายบรรพตเตะ แล้วนายเนียนเข้ารัดคอจำเลยไว้ให้นายบรรพตชกจำเลย จึงเป็นการที่ผู้ตายทั้งสองได้กลุ้มรุมทำร้ายจำเลย หาใช่จำเลยสมัครใจวิวาทกับผู้ตายทั้งสองไม่ การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายทั้งสอง จึงเป็นการป้องกันสิทธิของตนให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย ปัญหาว่าจำเลยได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุหรือไม่ข้ออ้างของจำเลยที่ว่านายเนียนชักมีดเข้ามาจะแทงจำเลย และนายบรรพตชักปืนออกยิงจำเลยนั้น รูปคดีฟังไม่ได้ว่าผู้ตายทั้งสองใช้มีดจะแทงหรือยิงจำเลยก่อน คงฟังได้แต่เพียงว่าผู้ตายทั้งสองกลุ้มรุมชกต่อยจำเลยแม้ฝ่ายผู้ตายจะมี 2 คน แต่ต่างก็ชกต่อยจำเลยด้วยมือเปล่าไม่มีอาวุธอะไรการที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงนายเนียน สุขอุดม 1 นัด ขณะนายเนียน สุขอุดม กอดหลังจำเลย นายเนียน สุขอุดม ผละออกมาแล้วเซไป จำเลยยิงซ้ำอีกกระสุนปืนถูกนายเนียน สุขอุดม บริเวณคอและใต้ราวนมขวาแล้วหันไปยิงนายบรรพต สุขอุดม อีก 2-3 นัด ในระยะกระชั้นชิดติดพันกันนั่นเอง ถูกที่เหนือนมและสีข้าง ถือว่าเป็นการฆ่าคนโดยเจตนา เพื่อป้องกันตนเกินสมควรแก่เหตุ
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 68, 69 ให้จำคุก 10 ปี