แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เช็คที่มีผู้ปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย แล้วเอาไปขึ้นเงินจากธนาคารไปนั้น เป็นกรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1008 แม้ธนาคารจะจ่ายเงินไปโดยมิได้ประมาทเลินเล่อธนาคารก็ยังต้องรับผิดตามจำนวนเงินที่จ่ายให้ไปนั้น
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 รับราชการเป็นผู้จัดการองค์การรถไฟสายแม่กลอง สังกัดกรมรถไฟ องค์การนี้ได้ฝากเงินไว้กับจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2ได้จ่ายสมุดเช็คให้ไว้สำหรับจ่ายเงินอยู่ในความดูแลรักษาและรับผิดชอบของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสั่งจ่ายเงิน ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้รายงานต่อโจทก์ว่า เช็คถูกคนร้ายลอบฉีกเช็คเลขที่ ก.929040 ทั้งต้นขั้วและปลายขั้วฉบับหนึ่งได้มีผู้ปลอมลายเซ็นของจำเลยที่ 1 สั่งจ่ายเงินขององค์การรถไฟสายแม่กลองจำนวน 70,000 บาทให้แก่สหการก่อสร้างและมีผู้นำไปขึ้นเงินจากจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ได้จ่ายเงินให้ไปตามจำนวนเงินในเช็คนั้นไปแล้ว ทั้งนี้โดยจำเลยทั้งสองทำการประมาทเลินเล่อ ฯลฯ
จึงขอให้จำเลยทั้งสองใช้เงิน 70,000 บาทกับดอกเบี้ยให้โจทก์
จำเลยปฏิเสธความรับผิด แก้ว่ามิได้ประมาทเลินเล่อ
ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงิน 70,000 บาทกับดอกเบี้ยให้โจทก์ ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่ต้องรับผิด
โจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ธนาคารไทยพาณิชย์จำเลยที่ 2 ใช้เงิน70,000 บาทและดอกเบี้ย ฯลฯ ให้โจทก์ ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1
โจทก์และจำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่าคดีเรื่องนี้เป็นเรื่องตั๋วเงินปลอมตรงกับบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1008 จึงเป็นเช็คที่ใช้ไม่ได้ การที่จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่าได้จ่ายเงินไปตามเช็ครายนี้โดยมิได้ประมาทเลินเล่อนั้น หาจำต้องวินิจฉัยไม่ จำเลยที่ 2 ต้องรับผิด
จึงพิพากษายืน