คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 154/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กำนันจับผู้ต้องหาเรื่องลักทรัพย์และได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไป ไม่นำส่งต่อพนักงานสอบสวน โดยได้รับเงินจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คนละ 250 บาทดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยงดเว้นไม่กระทำการตามหน้าที่อันเป็นการมิชอบ การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดตามมาตรา 149
การกระทำที่จะเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148จะต้องเป็นเรื่องที่จำเลยใช้อำนาจโดยมิชอบ และใช้อำนาจนั้นข่มขืนใจให้เขามอบให้หรือหาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่นโดยมิใช่เรื่องเรียกฯลฯทรัพย์เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งเป็นการตอบแทน เช่น จำเลยแกล้งจับเขามาข่มขู่ขืนใจเรียกเอาเงินทองเขาโดยไม่ปรากฏว่าเกิดการกระทำผิดขึ้น

ย่อยาว

ได้ความว่า จำเลยเป็นกำนันตำบลหนองงิ้ว ได้จับกุมนายเหล่วและนายสุระมาล่ามโซ่ขังไว้ที่บ้านเรือนจำเลยในข้อหาว่า คนทั้งสองเป็นคนร้ายลักรถจักรยานรุ่งขึ้นจำเลยได้ปล่อยผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปเนื่องจากได้รับเงินจากคนทั้งสองคนละ 250 บาท โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 149, 200

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยมีผิดตามฟ้องแต่ให้ลงโทษตาม มาตรา 148ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 3 ปี

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์แก้ว่าจำเลยมีผิดตาม มาตรา 149, 200ให้จำคุกจำเลย 1 ปี ตามมาตรา 200 ซึ่งเป็นบทหนัก

โจทก์ฎีกา ขอให้ลงโทษตามมาตรา 148 และกำหนดโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยรับเงินไว้จากนายเหล่วและนายสุระซึ่งเป็นผู้ต้องหาว่าลักรถจักรยาน อันเป็นการกระทำตามตำแหน่งหน้าที่ของจำเลยในฐานะที่เป็นกำนัน แล้วจำเลยได้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไม่นำส่งต่อพนักงานสอบสวน ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยงดเว้นไม่กระทำการตามตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ การกระทำของจำเลยจึงต้องด้วย มาตรา 149 ส่วนที่จะเป็นผิดตาม มาตรา 148 จะต้องได้ความว่า เป็นเรื่องที่จำเลยใช้อำนาจโดยมิชอบ และใช้อำนาจนั้นข่มขืนใจให้เขามอบให้หรือหาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนหรือผู้อื่นโดยมิใช่เรื่องเรียก ฯลฯ ทรัพย์ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งเป็นการตอบแทน อาทิเช่น จำเลยแกล้งจับเขามาข่มขู่ขืนใจเรียกเอาเงินทองโดยไม่ปรากฏว่าได้เกิดการกระทำผิดขึ้น

พิพากษาแก้กำหนดโทษให้จำคุกจำเลยไว้ 3 ปี นอกนั้นยืนตามศาลอุทธรณ์

Share