แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
การไกล่เกลี่ยเป็นการใช้อำนาจของศาลตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศฯ มาตรา 30 ประกอบด้วยข้อกำหนดคดีทรัพย์สินทางปัญหาและการค้าระหว่างประเทศ ข้อ 27 (1) แม้จะไม่ปรากฏในรายงานกระบวนพิจารณาว่า ศาลได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยในวันดังกล่าวตามที่ศาลนัดไว้หรือไม่ ก็หาใช่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย สำหรับการไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถานั้นเนื่องจากคำร้องดังกล่าวเป็นคำขอจึงตกอยู่ภายใต้บังคับแห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ฯ มาตรา 26 ประกอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 156 และมาตรา 21 เมื่อคดียังอยู่ในชั้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาและคู่ความทุกฝ่ายมาศาล ประกอบกับจำเลยทั้งสองได้ยื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของจำเลยที่ 2 โดยมีการนำจำเลยที่ 2 เข้าตอบคำถามค้านและคำถามติงถือว่าคู่ความทุกฝ่ายได้มีโอกาสดำเนินคดีเกี่ยวกับคำร้องดังกล่าวในระหว่างที่ศาลออกนั่งพิจารณาคดีแล้วกระบวนพิจารณาของศาลจึงไม่ขัดต่อกฎหมาย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองออกจากสถานีบริการน้ำมันของโจทก์ และยุติการใช้พร้อมกับส่งมอบสถานีบริการน้ำมัน เครื่องมือ และอุปกรณ์ดังกล่าวคืนแก่โจทก์ในสภาพที่เรียบร้อยใช้การได้ดี ขอให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้แก่โจทก์จำนวน 68,520.47 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ขอให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 1,250,000 บาท และในอัตราวันละ 10,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะมอบสถานีบริการน้ำมันคืนแก่โจทก์ ให้จำเลยทั้งสองดำเนินการถอดผ้าคลุมป้าย สัญลักษณ์ และเครื่องหมายการค้าของโจทก์ทั้งหมดที่ติดตั้งในสถานีบริการน้ำมัน และทำให้คืนกลับสู่สภาพที่ดีและใช้ประโยชน์ได้ดังเดิม
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้คดีขอให้ยกฟ้อง และฟ้องแย้งขอให้โจทก์คืนเงินประกัน จำนวน 500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าโจทก์จะคืนเงินประกันจำนวนดังกล่าวให้กับจำเลยทั้งสองเสร็จสิ้น ให้โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่จำเลยทั้งสองเป็นเงินจำนวน 6,500,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้องแย้งเป็นต้นไป จนกว่าโจทก์จะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่จำเลยทั้งสองเสร็จสิ้น โดยจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไต่สวนแล้ว เห็นว่า จำเลยมิได้เป็นคนยากจนไม่สามารถเสียค่าธรรมเนียมศาล ตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 155 จึงให้ยกคำร้องของจำเลย หากจำเลยประสงค์จะฟ้องแย้งให้นำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียภายใน 15 วัน
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า กรณีมีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยทั้งสองดำเนินคดีอย่างคนอนาถาชั้นฟ้องแย้งหรือไม่ เห็นว่า แม้ข้อเท็จจริงในชั้นไต่สวนจะปรากฏว่าจำเลยทั้งสองอยู่ในฐานะประสบการขาดทุนมาโดยตลอด ต้องขอกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินและมีภาระต้องจ่ายเงินเดือนลูกจ้างในแต่ละเดือน แต่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่ 1 ก็เบิกความตอบทนายโจทก์ถามค้านว่า จำเลยที่ 1 ยังมีบัญชีประเภทกระแสรายวัน ปัจจุบันจำเลยที่ 1 ยังประกอบกิจการตามปกติโดยชำระเป็นเงินสด ดังนั้น ตามทางไต่สวนยังไม่พอฟังว่าจำเลยทั้งสองยากจนไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาล ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสองนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ในทำนองว่า การไต่สวนคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในวันที่ 24 มีนาคม 2546 ไม่ชอบเพราะเป็นวันที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางนัดโจทก์จำเลยทั้งสองเพื่อไกล่เกลี่ยเท่านั้น แต่เมื่อถึงวันนัดดังกล่าวศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางกลับดำเนินการไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา โดยไม่ได้ให้โอกาสโจทก์กับจำเลยทั้งสองได้เจรจาไกล่เกลี่ยกันอีกต่อไปนั้น เห็นว่า ตามคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาของจำเลยทั้งสองฉบับลงวันที่ 25 ธันวาคม 2545 ศาลได้มีคำสั่งนัดไต่สวน โดยให้แจ้งคู่ความด้วยว่า ให้ตัวความทั้งสองฝ่ายมาศาลในวันไต่สวนเพื่อการเปรียบเทียบและไกล่เกลี่ย เมื่อถึงวันนัดไต่สวนครั้งแรกวันที่ 3 มีนาคม 2546 ศาลได้บันทึกรายงานกระบวนพิจารณาว่า เห็นว่าคู่ความมีความตั้งใจจริงในการเจรจาจึงเห็นสมควรให้โอกาสคู่ความไกล่เกลี่ยอีกนัดในวันที่ 24 มีนาคม 2546 ดังนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นว่า การไกล่เกลี่ยเป็นการใช้อำนาจของศาลตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 30 ประกอบด้วยข้อกำหนดคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ข้อ 27 (1) ดังนั้น แม้จะไม่ปรากฏในรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 24 มีนาคม 2546 ว่า ศาลได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยหรือไม่ในวันดังกล่าว ก็หาใช่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อย่างใดไม่ สำหรับการไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถานั้น เนื่องจากคำร้องดังกล่าวเป็นคำขอ จึงตกอยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 และมาตรา 21 เมื่อคดียังอยู่ในชั้นไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาและคู่ความทุกฝ่ายมาศาล ประกอบกับจำเลยทั้งสองได้ยื่นบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของจำเลยที่ 2 โดยมีการนำจำเลยที่ 2 เข้าตอบคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของจำเลยที่ 2 โดยมีการนำจำเลยที่ 2 เข้าตอบคำถามค้านและคำถามติงเช่นนี้ถือว่าคู่ความทุกฝ่ายได้มีโอกาสดำเนินคดีเกี่ยวกับคำร้องดังกล่าวในระหว่างที่ศาลออกนั่งพิจารณาคดีแล้ว กระบวนพิจารณาของศาลจึงไม่ขัดต่อกฎหมายแต่อย่างใด อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองในข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”
พิพากษายืน หากจำเลยทั้งสองยังติดใจดำเนินคดีในส่วนของฟ้องแย้งต่อไปให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระภายใน 15 วัน นับแต่วันฟังคำพิพากษานี้