คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1111/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บันทึกเปรียบเทียบที่โจทก์จำเลยลงชื่อไว้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2517 มีข้อความว่า ให้จำเลยขายที่ดินคืนให้โจทก์ภายในกำหนด 1 ปี ถ้าพ้นกำหนด 1 ปี (19 มีนาคม 2518) ยังไม่มีการซื้อขายที่ดินคืนก็ให้ยกเลิกข้อตกลง การที่ระบุข้อความในวงเล็บว่า ’19 มีนาคม 2518′ ไว้ก็ด้วยเจตนาที่จะกำหนดวันสิ้นสุดแห่งระยะเวลา 1 ปี ให้เป็นที่แน่นอน เป็นข้อยกเว้นโดยนิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 156 จะนำวิธีการกำหนดนับระยะเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 158,159 มาใช้บังคับไม่ได้ต้องถือว่าวันที่ 19 มีนาคม 2518 เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาที่โจทก์มีสิทธิขอซื้อที่ดินคืน เมื่อโจทก์ขอซื้อคืนในวันที่ 20 มีนาคม 2518 โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะซื้อคืน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า คณะกรรมการ ก.ส.ส. ไกล่เกลี่ยให้จำเลยขายที่ดินคืนให้โจทก์วันที่ 20 มีนาคม 2517 โจทก์จำเลยตกลงกันตามคำเปรียบเทียบว่า จำเลยตกลงขายที่ดินคืนให้โจทก์ในราคา 8,000 บาท ภายใน 1 ปี วันครบกำหนดคือวันที่ 20 มีนาคม 2518 โจทก์นำเงิน 8,000 บาทไปชำระให้จำเลยที่อำเภอแต่จำเลยผิดสัญญาไม่ไปรับ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าว แล้วจัดการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่โจทก์

จำเลยให้การว่า ตามข้อตกลงให้โจทก์ซื้อที่ดินคืนภายใน 1 ปี มีเงื่อนไขว่าถ้าพ้นกำหนด 1 ปี (19 มีนาคม 2518) ถ้ายังไม่มีการซื้อขายให้ยกเลิกข้อตกลงโจทก์นำเงินมาชำระในวันที่ 2 มีนาคม 2518 ล่วงเลยระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้วโจทก์ไม่มีสิทธิบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามข้อตกลงได้

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ตามสัญญาโจทก์จำเลยตกลงกันให้ถือเอาวันที่ 19 มีนาคม 2519 เป็นวันสิ้นสุดแห่งระยะเวลา 1 ปี จำเลยขอซื้อคืนในวันที่ 20 มีนาคม 2518 จำเลยจึงไม่มีความผูกพันที่จะต้องขายคืน พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ขอคืนวันที่ 20 มีนาคม 2518 ยังอยู่ภายในกำหนดเวลา 1 ปี โจทก์มีสิทธิซื้อคืนได้ พิพากษากลับบังคับให้จำเลยโอนขายที่ดินให้โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คณะกรรมการ ก.ส.ส. ไกล่เกลี่ย โจทก์จำเลยตกลงยินยอมตามคำเปรียบเทียบของคณะกรรมการ ปรากฏตามบันทึกเปรียบเทียบที่โจทก์จำเลยลงชื่อไว้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2517 ซึ่งมีข้อความว่า (1) ให้นายปักชุนขายที่ดินคืนให้นายทองคำในราคา 8,000 บาท ภายในกำหนด 1 ปี (2) ในปีนี้ให้นายทองคำเข้าทำกินในที่ดินได้โดยไม่มีค่าเช่า (3) ถ้าพ้นกำหนด1 ปี (19 มีนาคม 2518) ถ้ายังไม่มีการซื้อขายที่ดินคืนก็ให้ยกเลิกข้อตกลงโจทก์นำเงินไปขอซื้อที่ดินคืนในวันที่ 20 มีนาคม 2518

ปัญหามีว่า โจทก์มีสิทธิซื้อที่ดินหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าข้อความในบันทึกคำเปรียบเทียบข้อ 3 ที่ว่า ถ้าพ้นกำหนด 1 ปี (19 มีนาคม 2518) ถ้ายังไม่มีการซื้อขายที่ดิน ก็ให้ยกเลิกข้อตกลง เมื่ออ่านประกอบกับข้อความในข้อ 1 ที่ กำหนดให้จำเลยขายที่ดินคืนให้โจทก์ภายในกำหนด 1 ปีแล้ว เห็นได้ว่า การที่ระบุข้อความในวงเล็บว่า “19 มีนาคม 2518” ต่อท้ายด้วยเจตนาที่จะกำหนดวันสิ้นสุดแห่งระยะเวลา 1 ปี ให้เป็นที่แน่นอน เพราะหากมีเจตนาเพียงจะถือเอากำหนดเวลา 1 ปี ก็ไม่จำต้องระบุข้อความดังกล่างไว้อีก ไม่ใช่เกิดขึ้นเพราะคณะกรรมการคำนวณระยะเวลาผิดพลาดดังศาลอุทธรณ์วินิจฉัย จึงเป็นกรณีที่ได้กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดของกำหนดเวลา 1 ปีไว้เป็นวันที่ 19 มีนาคม 2518 โดยนิติกรรมต้องด้วยข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 156 จะนำวิธีการกำหนดนับระยะเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158, 159 มาใช้บังคับไม่ได้ ต้องถือว่า วันที่ 19 มีนาคม2518 เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาที่โจทก์มีสิทธิซื้อที่ดินคืน ฉะนั้น เมื่อโจทก์นำเงินไปซื้อที่ดินคืนจากจำเลยในวันที่ 20 มีนาคม 2518 โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะซื้อที่ดินคืน

พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share