คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1079/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายล่วงหน้าเพื่อชำระค่าซื้อเชื่อปุ๋ยจากบริษัทผู้เสียหายเมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายได้ตกลงกับจำเลยว่าจะไม่ฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับเช็ค และผู้เสียหายได้รู้ว่าจำเลยไม่มีเงินในบัญชีในวันสั่งจ่ายตามเช็ค เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เงินตามเช็ค มาตรา 3

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คธนาคารไทยพัฒนาจำกัดสั่งจ่ายเงินจำนวน ๒๙,๑๖๐ บาท ให้บริษัทยูเอสซัมมิท เพื่อชำระค่าซื้อปุ๋ยต่อมาบริษัทได้นำเช็คผ่านเข้าบัญชีที่ธนาคารเซสแมนฮัตตันเพื่อเรียกเก็บจากธนาคารเช็คพิพาท แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินโดยเหตุบัญชีปิดแล้ว ทั้งนี้โดยจำเลยออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เงินตามเช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่าผู้เสียหายให้จำเลยออกเช็คตามหนี้ค่าปุ๋ยไว้โดยประสงค์เอาความผิดทางอาญาเป็นประกันราคาปุ๋ยเท่านั้น ทั้งผู้เสียหายยังให้มีผู้ค้ำประกันหนี้ค่าปุ๋ยที่จำเลยซื้อไปอีกด้วย อันแสดงว่าได้รู้แล้วว่าจำเลยไม่มีเงินจะชำระให้ตามเช็ค พิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยออกเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ค่าซื้อเชื่อปุ๋ย ซึ่งผู้เสียหายให้เครดิตแก่จำเลยให้ออกเช็คสั่งจ่ายเงินล่วงหน้า เท่ากับให้โอกาสจำเลยชำระหนี้ภายหลังเมื่อเช็คที่ออกเพื่อจะให้มีการใช้เงินแต่ขึ้นเงินไม่ได้ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ การที่ผู้เสียหายให้มีผู้ค้ำประกันในการออกเช็คอีกขั้นหนึ่งก็แสดงว่าผู้เสียหายต้องการให้จำเลยชำระหนี้ตามที่ออกเช็ค ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายรู้แล้วว่าจำเลยไม่มีเงินในขณะออกเช็ค พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ให้จำคุกจำเลย ๓ เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า บริษัทผู้เสียหายรู้ว่าจำเลยไม่มีเงินในบัญชีในวันสั่งจ่ายเงินตามเช็ค การที่ให้มีการค้ำประกันก็เป็นเรื่องที่บริษัทจัดการป้องกันผลประโยชน์ของตนไว้อีกชั้นหนึ่ง ทั้งข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าผู้เสียหายได้ตกลงกับจำเลยว่าจะไม่ฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับเช็คพิพาท
พิพากษายืน

Share