แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยขอให้ศาลสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาโดยผู้ขอประกันได้เสนอบัญชีทรัพย์มาพร้อมคำร้องแล้ว
หมายเหตุ คดีสองสำนวนนี้ โจทก์จำเลยเป็นคู่ความเดียวกันสำนวนแรกโจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 สำนวนหลังโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3ศาลชั้นต้นทั้งสองสำนวนต่างไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์มีมูล มีคำสั่งให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีทั้งสองสำนวนรวมกัน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรม ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดฐานออกเช็คในสำนวนแรกกระทงหนึ่งจำคุก 1 ปี ฐานออกเช็คในสำนวนหลังอีกกระทงหนึ่ง จำคุก 1 ปี รวม 2 กระทง จำคุก 2 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองสำนวนฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ (อันดับ 101แผ่นที่ 3,105)
จำเลยทั้งสองสำนวนยื่นคำร้องดังกล่าว โดยมีคำร้องประกอบ(อันดับ 102 แผ่นที่ 7,102 แผ่นที่ 2)
จำเลยทั้งสองสำนวนเคยยื่นคำร้องขอให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกามาแล้วครั้งหนึ่ง ศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกคำร้อง (อันดับ 98)
คำสั่ง
อนุญาตให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างฎีกา ตีราคาประกันสำนวนละ 200,000 บาท รวม 2 สำนวน เป็นเงินจำนวน 400,000 บาทให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันแล้วดำเนินการต่อไป