คำสั่งคำร้องที่ 2720/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา มีทางชนะคดี ชั้นอุทธรณ์จำเลยที่ 2 ได้หาบุคคลนำหลักทรัพย์มาวางเป็นประกันในการทุเลาการบังคับไว้แล้ว จำเลยที่ 2 ขอวางหลักประกันดังกล่าวในชั้นฎีกา โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 150 แผ่นที่ 2)
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นหนี้โจทก์ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี สัญญาใช้บริการสินเชื่อบัตรทองและสัญญาขายลดเช็คซึ่งเรียกเก็บเงินไม่ได้ โดยมีจำเลยที่ 2 เป็น ผู้ค้ำประกันตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี และสัญญาขายลดเช็คจำเลยที่ 3 เป็นผู้ลงชื่อในเช็ค จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระหนี้ขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้ดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย โดยให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดตามวงเงินค้ำประกันพร้อมดอกเบี้ย และจำเลยที่ 3 รับผิดตามจำนวนเงินในเช็คพร้อมดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมรับผิดต่อโจทก์ใน หนี้ตามสัญญาขายลดเช็คพร้อมดอกเบี้ย โดยจำเลยแต่ละคนรับผิด ในต้นเงินและดอกเบี้ยต่างกันไปตามส่วน ให้จำเลยที่ 1 ใช้หนี้ สินเชื่อบัตรทองพร้อมดอกเบี้ย ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกัน ใช้หนี้เงินกู้เบิกเงินเกินบัญชีแก่โจทก์ โดยจำเลยที่ 2ร่วมรับผิดเพียงในต้นเงิน 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละสิบห้าต่อปีนับแต่วันที่ 23 มกราคม 2531 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์เฉพาะหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีหนี้ในส่วนอื่นถึงที่สุดโดยคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องดังกล่าว(อันดับ 149,148)
ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ทุเลาการบังคับจำเลยที่ 2 โดยให้หาประกันสำหรับหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีตามคำพิพากษาพร้อมดอกเบี้ยมาวางภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด จำเลยที่ 2หาบุคคลนำหลักทรัพย์มาวางเป็นประกัน และทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 130,137)

คำสั่ง
จำเลยที่ 2 ฎีกาเฉพาะเรื่องหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีถ้าจำเลยที่ 2 หาประกันสำหรับหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พร้อมด้วยดอกเบี้ยเป็นเวลา 8 ปี มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้จำเลยที่ 2 ทุเลาการบังคับเฉพาะหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง ส่วนคำร้องขอทุเลาสำหรับหนี้รายอื่นให้ยก

Share