แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า โจทก์อุทธรณ์เกี่ยวกับการรับฟังข้อเท็จจริงของศาล จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 54 จึงไม่รับอุทธรณ์โจทก์
โจทก์เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าศาลแรงงานกลางมิได้นำพยานหลักฐานในสำนวนมาวินิจฉัยและฟังพยานหลักฐานขัดกับหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ด้วย
หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 94)
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้เงินจำนวน 3,276,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับจากวันฟ้องไปจนกว่าจำเลยจะชำระให้โจทก์เสร็จ
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ ฯลฯ
โจทก์อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 89)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 91)
คำสั่ง
ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า บริษัทที่จำเลยตั้งขึ้นนั้นไม่มีลักษณะแข่งขันกับบริษัทโจทก์ผู้เป็นนายจ้าง และฟังว่าโจทก์ยอมทำหนังสือสัญญายกเลิกการว่าจ้างให้จำเลยลงชื่อ จำเลยไม่ผิดสัญญาจ้าง โจทก์อุทธรณ์ว่าข้อเท็จจริงไม่เป็นไปตามที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัย ศาลแรงงานกลางควรฟังเนื้อความตามเอกสารหมาย จ.7เอกสารหมาย จ.8 พยานเอกสารของโจทก์ประกอบกับคำเบิกความของนายสมวงศ์ คงสถาพรและนายปรีย์มนปิ่นสกุล พยานโจทก์ ไม่ควรฟังคำเบิกความของจำเลยว่าโจทก์ยอมทำสัญญายกเลิกการจ้างให้จำเลยตามเอกสารหมาย จ.11 ดังนี้ อุทธรณ์ทุกข้อล้วนเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางทั้งสิ้นเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์โจทก์ชอบแล้วให้ยกคำร้อง