คำสั่งคำร้องที่ 1610/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเล็กน้อยและคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคแรก จึงไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า ศาลอุทธรณ์แก้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีนี้มิใช่เป็นการแก้ไขเล็กน้อย เพราะประเด็นที่วินิจฉัยต่างกัน และการกำหนดโทษจำเลยก็แตกต่างจากศาลชั้นต้นได้กำหนดไว้ เกินกว่า 5 ปี จำเลยจึงมีสิทธิฎีกาได้ โปรดมีคำสั่งรับฎีกา ของจำเลยด้วย
หมายเหตุ โจทก์และโจทก์ร่วมได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 167,168)
ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น นายหงษ์ กวางสุขบิดาผู้ตาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ให้จำคุก 15 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาเห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 7 ปี 6 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 72 ให้จำคุก 4 ปี ทางนำสืบของจำเลยเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์ แก่การพิจารณา เห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 153)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 157)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำคุก 15 ปีจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งจำคุก 7 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษา แก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ประกอบมาตรา 72 จำคุก 4 ปี ทางนำสืบของจำเลย เป็นการให้ความรู้แก่ศาล เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี เป็นการแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 จึงให้รับฎีกาของจำเลย แล้วให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป

Share