คำสั่งคำร้องที่ 1110-1111/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกา ของจำเลยที่ 3 เป็นฎีกาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับ
จำเลยที่ 3 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 3 เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 3ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 148)
คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันโดยเรียกนายสมานไทยประทานนายศักดาวุฒิโกศลปลั่งศรีและนายวิสูตร เทียนปั่น จำเลยในสำนวนแรกว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ตามลำดับ และเรียก นายวรรณ บุญกอแก้ว จำเลยในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 4
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4กับที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กับมาตรา 335(ที่แก้ไขแล้ว) ตามลำดับ จำคุกคนละ 5 ปีข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยกฟ้อง ริบแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม ของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรกจำเลยที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7) วรรคสอง ที่แก้ไขแล้ว ลดโทษหนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยคนละ 3 ปี 4 เดือน นอกจากที่แก้คงให้ เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 125)
จำเลยที่ 3 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 138)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 3 ฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการ รับฟังพยานหลักฐานของศาล จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 3 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share