แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติแล้ว ฎีกาของจำเลยเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึง ไม่รับ ฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายและไม่ต้องห้ามฎีกาแต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกา ของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 93)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยได้พยายามบรรเทาผลร้ายโดยชำระหนี้ให้แก่โจทก์บางส่วนแล้ว จึงเห็นสมควรลงโทษจำเลยในสถานเบาจำคุก 9 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณานับเป็นเหตุบรรเทาโทษจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 4 เดือน 15 วัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 89)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 93)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยรับสารภาพ ข้อเท็จจริงฟังยุติแล้วว่าจำเลยออกเช็คเป็นการชำระหนี้ จำเลยจะโต้เถียงเป็นอย่างอื่น หาได้ไม่ ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาชอบแล้ว ยกคำร้อง