แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์เคยฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีล้มละลาย ศาลพิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองมีหนี้สินล้นพ้นตัว คดีถึงที่สุดโจทก์นำมูลหนี้จำนวนเดิมมาฟ้องขอให้จำเลยทั้งสอง ล้มละลายเป็นคดีนี้อีก คู่ความในคดีก่อนกับคดีนี้เป็นคู่ความ เดียวกัน ประเด็นพิพาทก็อาศัยเหตุอย่างเดียวกันว่าจำเลยที่ 2 โอนขายที่ดินแก่ บุคคลภายนอกไปแล้วหรือไม่ และจำเลยทั้งสองมี หนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ จึงเป็น ฟ้องซ้ำต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 วรรคแรก ประกอบด้วย มาตรา 153 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขาดและพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้วมีคำสั่งว่า โจทก์เคยฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ 3/2533 ของศาลชั้นต้นในมูลหนี้เดียวกัน และศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดโดยวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดีแล้ว โจทก์มาฟ้องใหม่ไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 153 ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า เดิมโจทก์เคยฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีล้มละลาย ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องตามคดีหมายเลขแดงที่ 3/2533 โดยวินิจฉัยว่า ตามทางนำสืบของโจทก์ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ยังมีทรัพย์สินคือที่ดินมี น.ส.3 อยู่ 1 แปลง ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยที่ 2 ได้โอนขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่ผู้อื่นก็เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่มีพยานอื่นสนับสนุน ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ได้โอนขายที่ดินดังกล่าวให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้ว ที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่ถึง 44 ไร่ 1 งาน 94 ตารางวานับว่าจำนวนมาก โจทก์ไม่ได้นำสืบถึงราคาของที่ดินแปลงนี้ว่ามีราคามากกว่าหรือน้อยกว่าจำนวนหนี้ที่จำเลยทั้งสองยังค้างชำระแก่โจทก์พยานหลักฐานของโจทก์เท่าที่นำสืบมายังฟังไม่ได้ว่า จำเลยทั้งสองมีหนี้สินล้นพ้นตัว และคดีดังกล่าวถึงที่สุดแล้ว ต่อมาโจทก์ได้นำมูลหนี้จำนวนเดิมกลับมาฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้อีก เพื่อขอให้ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสองเด็ดขาด และพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า ฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องซ้ำหรือไม่ เห็นว่า คู่ความในคดีนี้กับคดีหมายเลขแดงที่ 3/2533 ของศาลชั้นต้นเป็นคู่ความเดียวกัน และประเด็นพิพาทในคดีดังกล่าวที่ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยแล้วกับประเด็นพิพาทที่จะต้องวินิจฉัยในคดีนี้ก็อาศัยเหตุอย่างเดียวกันว่าจำเลยที่ 2 ได้โอนขายที่ดินตามเอกสารหมาย จ.11 ในสำนวนคดีหมายเลขแดงที่ 3/2533 ของศาลชั้นต้นแก่บุคคลภายนอกไปแล้วหรือไม่ และจำเลยทั้งสองมีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือไม่ จึงเป็นฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 153 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.