แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นทั้งบทมาตราลงโทษและกำหนดโทษ แม้แก้บทมาตรา 268 เป็นมาตรา 266 ก็เป็นการแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ย่อยาว
คดีสองสำนวนนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันเมื่อพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 266, 268 ให้ลงโทษตามมาตรา 268จำคุกคนละ 3 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180, 266 ให้ลงโทษตามมาตรา 266ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ส่วนจำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 266จำคุกคนละ 1 ปี ข้อหานอกจากนี้ให้ยก จำเลยทั้งสองฎีกาศาลชั้นต้นสั่งว่าฎีกาข้อ ค.1 ถึง 7, 9 ถึง 21 เป็นปัญหาข้อกฎหมาย 3, 5, 6 เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 นอกนั้นแม้จะเป็นข้อกฎหมาย โจทก์มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาในชั้นอุทธรณ์ จึงไม่มีสิทธิฎีกาเพราะมิใช่ข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงห้ามมิให้ฎีกา จึงไม่รับเป็นฎีกาจำเลยทั้งสามจึงยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลฎีกาสั่งว่า “ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นทั้งบทมาตราลงโทษและกำหนดโทษ เป็นการแก้มาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาในข้อกฎหมายไม่ต้องห้ามฎีกา จึงให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสอง”