คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ได้ใบแทนโฉนดตลอดจนการจดทะเบียนสิทธิมาโดยไม่สุจริตย่อมไม่มีสิทธิฟ้องผู้ครอบครองที่ดินอยู่ก่อนและยึดถือโฉนดไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ยังมิได้แก้หลักฐานทางทะเบียนแต่อย่างใด

ย่อยาว

ได้ความว่า เดิมที่นาพิพาทเป็นของนายหมัด เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2480 นายหมัดได้ทำสัญญาขายกันเองให้แก่จำเลยที่ 4 ขณะนั้นที่พิพาทยังไม่มีโฉนด เมื่อ พ.ศ. 2486 นายหมัดได้โฉนดที่พิพาทแล้วนำมามอบให้จำเลยที่ 4 พร้อมทั้งใบมอบฉันทะให้จำเลยที่ 4 ไปรับโอนเอาเอง ต่อมานายหมัดตาย จำเลยที่ 4 ก็ยังไม่ได้ไปโอนโฉนดที่พิพาทเมื่อ พ.ศ.2491 โจทก์บอกกับนายติ่งบุตรนายหมัดว่านายหมัดเป็นหนี้โจทก์อยู่ ให้ไปขอใบแทนโฉนดที่พิพาทแล้ว โอนตีใช้หนี้โจทก์ แล้วโจทก์จัดการให้นายติ่งได้ใบแทนโฉนด พ.ศ.2492 นายติ่งได้โอนขายให้โจทก์ โจทก์จึงฟ้องหาว่าจำเลยที่ 1 ถึง ที่ 3 บุกรุกที่พิพาทกับเรียกค่าเสียหาย ต่อมาโจทก์ได้เรียกจำเลยที่ 4 เป็นจำเลยด้วย ภายหลังโจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่ 1

ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามมิให้จำเลยที่ 3-4 เข้าเกี่ยวข้องในที่พิพาทและให้จำเลยที่ 4 ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ ยกฟ้องจำเลยที่ 2

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเป็นผู้ครอบครองที่ดินพิพาทมาโจทก์ยังหาเข้าครอบครองไม่ เพราะเพิ่งได้รับใบแทนโฉนด ในเดือนมกราคม 2492 การที่โจทก์ได้ใบแทนมาก็โดยไม่สุจริต บทบัญญัติในมาตรา 1299 และ 1300 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงไม่สนับสนุนสิทธิของโจทก์ขึ้นได้ และมาตรา 1373 เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น และจำเลยได้นำสืบหักล้างข้อสันนิษฐานนี้แล้วโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยได้

พิพากษายืน

Share