แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้คู่ความจะได้ตกลงท้าพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือโดยถือเป็นข้อแพ้ชนะคดีแล้ว ศาลสั่งให้สืบพยานเนื่องจากโจทก์แถลงขัดข้องและจำเลยก็มิได้โต้แย้งจนได้กะประเด็นหน้าที่นำสืบและสืบพยานทั้งสองฝ่ายเสร็จสิ้นและพิพากษาชี้ขาดไปแล้วดังนี้ จำเลยไม่มีสิทธิจะยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์ฎีกา
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าห้างหุ้นส่วนจำเลยได้ซื้อเชื่อสุกรจากโจทก์ไปได้ผ่อนใช้ให้บ้างแล้ว คงค้างอีก 1,650 บาท ขอให้จำเลยใช้พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยต่อสู้ว่า ใช้ให้แล้วไม่ติดค้าง
ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่าจำเลยยังคงค้างค่าซื้อขายสุกรอยู่จริงดังฟ้อง จึงพิพากษาให้จำเลยชำระค่าสุกร 1,650 บาทกับดอกเบี้ย
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์จำเลยท้ากันให้ผู้ชำนาญพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือในเอกสารหมาย ล.1 และถือเป็นข้อแพ้ชนะในคดีคือถ้าผู้ชำนาญว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ โจทก์แพ้ถ้าไม่ใช่จำเลยแพ้ แต่โจทก์กลับไม่ปฏิบัติตามที่ท้า อ้างว่าไม่มีเงินเสียค่าธรรมเนียม และขอให้สืบพยานไป ฉะนั้นโจทก์ต้องแพ้ ที่ศาลยอมให้โจทก์เปลี่ยนแปลงข้อตกลงเช่นนี้ เป็นการไม่ชอบ
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้คดีนี้คู่ความจะได้ตกลงท้าพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือโดยถือเป็นข้อแพ้ชนะคดีดังกล่าว ก็ดี เมื่อศาลสั่งให้สืบพยานเนื่องจากโจทก์แถลงขัดข้อง จำเลยก็มิได้โต้แย้งคัดค้านจนได้กะประเด็นหน้าที่นำสืบและสืบพยานทั้งสองฝ่ายเสร็จสิ้นและพิพากษาชี้ขาดคดีไปแล้ว ดังนี้จำเลยไม่มีสิทธิจะยกขึ้นเป็นข้ออุทธรณ์ฎีกา ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226, 247
พิพากษาให้ยกฎีกาจำเลย