คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้าหลวงประจำจังหวัดและหัวหน้าการชลประทานตาม พ.ร.บ.การชลประทานราษฎร์มีอำนาจที่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการละเมิดที่กระทำแก่เหมืองฝ่ายที่อยู่ในเขตอำนาจของตนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ ๑ เป็นข้าหลวงประจำจังหวัดเชียวใหม่ โจทก์ที่ ๒ เป็นหัวหน้าชลประทานเหมืองฝ่ายไม้ไร่รออันเป็นชลประทานส่วนราษฎร จำเลยได้ตัดฟันไม้สักแล้วปล่อยให้ซุงไหลมาตามน้ำโดยไม่ได้ระมัดระวังตามสมควรตามสัญญาสัมประทาน จำเลยที่ ๒ เป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๑ มีหน้าที่จัดการแทนจำเลยที่ ๑ ละเลยไม่จัดช้างมาทำการงัดซุงให้พ้นฝ่ายเป็นเหตุให้ฝ่ายพัง ๒ ครั้ง เสียค่าซ่อมทั้งสิ้น ๓๕,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ฝ่ายเก่าฟังเองไม้ซุงที่ทำให้ฝ่ายพังไม่ใช่ไม้ของจำเลย โจทก์ไม่ระมัดระวังฝ่ายให้ดี ฝ่ายจึงพังลง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และโจทก์เคยฟ้องจำเลยครั้นหนึ่งแล้ว ศาลยกฟ้องจึงเป็นฟ้องซ้ำ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีก่อนศาลตัดสินยกฟ้องโดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องใหม่ จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ ฝายรายพิพาทนี้เป็นเหมืองชลประทานส่วนราษฎรตาม พ.ร.บ.การชลประทานราษฎร พ.ศ. ๒๔๘๕ แต่เห็นว่าโจทก์ที่ ๒ ฟ้องในฐานส่วนบุคคลจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ส่วนโจทก์ที่ ๑ นั้นมีอำนาจฟ้องตาม พ.ร.บ.การชลประทานราษฎร พ.ศ.๒๔๘๒ ม.๑๑,๒๒(ข) (ค) และ พ.ร.บ.ว่าด้วยระเบียบราชการบริหารแห่งราชอาณาจักรโทษ พ.ศ. ๒๔๗๖ ม.๑๘,๒๐ ประกอบด้วย พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ พ.ศ. ๒๔๕๗ ม.๑๑๔ ถึง ๑๒๒ ในเรื่องการเสียหายนั้นศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทำให้โจทก์เสียหายจริงตามฟ้องต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์เป็นเงิน ๑๓,๕๗๐ บาท
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า โจทก์ที่ ๒ ฟ้องในฐานะเจ้าพนักงานตามพ.ร.บ.การชลประทานราษฎร พ.ศ.๒๔๘๒ จึงมีอำนาจฟ้อง ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ๑๕,๗๒๐ บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำและไม่เคลือบคลุม ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเหมืองฝายรายพิพาทเป็นเหมืองชลประทานส่วนราษฎร ข้าหลวงประจำจังหวัดย่อมมีอำนาจฟ้องคดีนี้ได้ตามพ.ร.บ.ระเบียบราชการบริหารแห่งราชอาณาจักรไทย และ พ.ร.บ.การชลประทานราษฎร พ.ศ.๒๔๘๒ ม.๔,๑๑ และ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ๒๔๕๗ ม.๑๑๕ ส่วนโจทก์ที่ ๒ นั้นตามคำบรรยายฟ้องกล่าวว่าเป็นหัวหน้าชลประทานเหมืองฝ่ายไม้ไร่รอ จึงเป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ. การชลประทานราษฎรและเป็นผู้จัดการซ่อมแซมบำรุงรักษาในกรณีการเสียหายที่พิพาทนี้ จึงมีอำนาจฟ้อง การเสียหายรายพิพาทนี้เกิดขึ้นเนื่องจากไม้ซุงของจำเลย จำเลยมิได้ป้องกันความเสียหายแก่เหมืองฝายตามสัญญาสัมประทาน จึงจะปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ จึงพิพากษายืน

Share