คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การปฏิบัติงานของ ล. กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ไม่เป็นกิจจะลักษณะ ไปปฏิบัติงานบ้าง ไม่ปฏิบัติงานบ้าง สุดแท้แต่จะมีสุขภาพดีหรือไม่ ไม่มีหลักเกณฑ์การทำงานแน่นอน แต่อย่างใดแม้เงินเดือนจำน้อย ล. ก็พอใจ เพราะไม่มีเงินก็ขอเอาจากประธานกรรมการบริษัทได้ แสดงว่า ล. เป็นเพียงกรรมการผู้จัดการแต่เพียงในนาม เพราะหาก ล. เป็นลูกจ้างของบริษัทโจทก์ก็จะปฏิบัติตนเช่นนั้นไม่ได้ ล. คงเป็นเพียงกรรมการของบริษัทโจทก์ตามมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นแต่อย่างเดียว มิได้ตกลงทำงานให้แก่บริษัทโจทก์อีกชั้นหนึ่ง ล. จึงมิใช่ลูกจ้างของบริษัทโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบริษัทจำกัด จำเลยที่ ๑ เป็นกรมในกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่บริหารและควบคุมเกี่ยวกับแรงงานจำเลยที่ ๑ ได้มีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบว่าเนื่องจากโจทก์มีลูกจ้างครบ ๒๐ คน ต้องมีหน้าที่ชำระเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนจึงมีคำสั่งให้โจทก์ชำระเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน โจทก์ไม่เห็นด้วยเพราะโจทก์มีลูกจ้างเพียง ๑๖ คน อีก ๔ คนคือ ๑. นายอันโตเนียวประธานกรรมการฝ่ายบริหาร ๒ นายริชาร์ด กรรมการผู้จัดการ ๓. หม่อมราชวงศ์เลอชัย กรรมการผู้จัดการ และ ๔ นายมาซาโนริกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารงานด้านสั่งสินค้าเข้าและส่งสินค้าออก เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ จึงเป็นนายจ้างโจทก์อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกองทุนซึ่งเป็นหน่วยงานของจำเลยที่ ๑ คณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วมีมติยืนตามคำสั่งของจำเลยที่ ๑ ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งและคำวินิจฉัยของจำเลยที่ ๑
จำเลยทั้งสองให้การว่า ประธานกรรมการและกรรมการบริษัทเป็นเพียงนายจ้างของพนักงาน มิใช่นายจ้างของบริษัท ประธานกรรมการและกรรมการเป็นผู้ตกลงทำงานให้บริษัทโจทก์เพื่อรับค่าจ้างจึงเป็นลูกจ้างโจทก์ โจทก์จึงเป็นกิจการที่มีลูกจ้างอยู่ในกรุงเทพมหานครตั้งแต่ยี่สิบคนขึ้นไป มีหน้าที่ต้องจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนคำสั่งของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนชอบด้วยกฎหมายแล้วขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ประธานกรรมการฝ่ายบริหารและกรรมการผู้จัดการรวม ๔ คนของโจทก์ได้รับเงินได้เป็นรายเดือนสืบเนื่องจากการเป็นประธานกรรมการและกรรมการ ถือว่าเป็นค่าตอบแทนในการทำงานและเป็นค่าจ้าง ย่อมเป็นลูกจ้างของบริษัทโจทก์ บริษัทโจทก์จึงมีลูกจ้างจำนวน ๒๐ คน ตามหลักเกณฑ์ที่จะต้องจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า กรรมการบริษัทรวมทั้งประธานกรรมการเป็นบุคคลซึ่งที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัทตั้งขึ้นให้มีอำนาจหน้าที่จัดการบริษัทตามข้อบังคับ มิใช่บุคคลที่บริษัทโจทก์ตกลงรับเข้าทำงาน จึงไม่ใช่ลูกจ้างของบริษัทกรรมการบริษัทจะเป็นลูกจ้างก็ต่อเมื่อเป็นผู้ตกลงทำงานให้แก่บริษัทเพื่อรับค่าจ้างอีกชั้นหนึ่งที่ประธานกรรมการและกรรมการในคดีนี้ได้รับเงินได้ตามตำแหน่งหน้าที่จากบริษัทโจทก์เป็นรายเดือน ยังไม่ได้ความชัดว่าเป็นผู้ตกลงทำงานให้แก่บริษัทโจทก์ เพื่อรับค่าจ้างอีกชั้นหนึ่งหรือไม่ พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลแรงงานกลางให้ศาลแรงงานกลางดำเนินการพิจารณาต่อไปว่า ประธานกรรมการฝ่ายบริหารและกรรมการทั้งสี่คนเป็นผู้ตกลงทำงานให้แก่บริษัทโจทก์เพื่อรับค่าจ้างอีกชั้นหนึ่งหรือไม่
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า หม่อมราชวงศ์เลอชัย กรรมการผู้จัดการของบริษัทโจทก์มิได้ตกลงทำงานให้แก่บริษัทโจทก์เพื่อรับจ้างอีกชั้นหนึ่งจึงไม่ใช่ลูกจ้างไม่จำต้องพิจารณาถึงสถานะของกรรมการอีก ๓ นาย เพราะหากหม่อมราชวงศ์เลอชัยมิใช่ลูกจ้างของบริษัทโจทก์แม้แต่เพียงคนเดียวจำนวนลูกจ้างในบริษัทโจทก์ก็มีจำนวนไม่ถึง ๒๐ คน บริษัทโจทก์ไม่ต้องจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่สั่งให้โจทก์จ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า แม้หม่อมราชวงศ์เลอชัยกรรมการผู้จัดการจะมีสุขภาพไม่ดี นายอันโตเนียว ประธานกรรมการก็อาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวดำเนินการให้หม่อมราชวงศ์เลอชัยได้เข้ามาเป็นกรรมการ การปฏิบัติงานของหม่อมราชวงศ์เลอชัยไม่เป็นกิจจะลักษณะไม่ปฏิบัติงานบ้าง ไม่ปฏิบัติงานบ้าง สุดแท้แต่จะมีสุขภาพดีหรือไม่ ไม่มีหลักเกณฑ์การทำงานแน่นอนแต่อย่างใดแม้เงินเดือนจะน้อย หม่อมราชวงศ์เลอชัยก็พอใจ เพราะเมื่อไม่มีเงินก็ขอเอาจากนายอันโตเนียวได้แสดงว่าหม่อมราชวงศ์เลอชัยเป็นกรรมการผู้จัดการแต่เพียงในนาม เพราะหากหม่อมราชวงศ์เลอชัยเป็นลูกจ้างของบริษัทโจทก์ก็จะปฏิบัติตนเช่นนั้นไม่ได้ ฟังได้ว่าหม่อมราชวงศ์เลอชัยเป็นเพียงกรรมการของบริษัทโจทก์ตามมติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นแต่อย่างเดียว มิได้ตกลงทำงานให้แก่บริษัทโจทก์อีกชั้นหนึ่ง หม่อมราชวงศ์เลอชัยจึงมิใช่ลูกจ้างของบริษัทโจทก์
พิพากษายืน

Share