แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยไม่นำเงินหรือหลักประกันมาวางศาล ตามคำสั่ง จึงเป็นการไม่ชอบ จึงไม่รับคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ที่ไม่รับฎีกาของจำเลย จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ดังนั้น เพื่อให้ศาลฎีกาได้พิจารณาและ วินิจฉัยเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว โปรดมีคำสั่งรับ คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาและมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยด้วย หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง ระหว่างพิจารณา จำเลยยื่นคำร้องขอให้เรียกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของนางนันทการุ่งสาโรจน์ เข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 91,013.01 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 1 กันยายน 2534 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ สำหรับจำเลยร่วมให้ยกฟ้องเสีย ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ตามฎีกาของจำเลยไม่ปรากฏข้อโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์แต่อย่างใดจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบ อีกทั้งเนื้อหาตามฎีกาก็เป็นเรื่อง โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นซึ่งศาลอุทธรณ์ยังมิได้ยกขึ้นวินิจฉัย จึงไม่รับฎีกา (อันดับ 148) จำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 150) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 153)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว จำเลยไม่นำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง ไม่รับฎีกาของจำเลย