คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3785-3789/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ได้ยกข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าผู้เช่าทั้งห้ารายนำเงินค่าเช่าไปวางที่สำนักงานวางทรัพย์กลาง กรมบังคับคดีทำให้โจทก์ไม่สามารถรับเงินค่าเช่าที่วางไว้ได้ ข้ออ้างของโจทก์ดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้เช่าทั้งห้ารายทำสัญญาเช่ากับโจทก์แล้วไม่ชำระค่าเช่ากลับนำเงินค่าเช่าไปวาง ณ สำนักงานวางทรัพย์กลางโดยกำหนดเงื่อนไขเพื่อจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ที่แท้จริงตามคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งเป็นการกระทำของผู้เช่าทั้งห้ารายไม่ใช่การกระทำของจำเลย การที่โจทก์ไม่สามารถรับเงินค่าเช่าได้เพราะมีเงื่อนไขดังกล่าวที่ผู้เช่าทั้งห้ารายกำหนดไว้ มิใช่เพราะจำเลยไปคัดค้านการขอรับเงินค่าเช่าของโจทก์แต่อย่างใด ทั้งจำเลยได้ทำสัญญาเช่ากับผู้เช่าทั้งห้ารายมาก่อนการวางทรัพย์ จำเลยไม่ได้กระทำละเมิดหรือโต้แย้งสิทธิโจทก์ อันเป็นเหตุให้โจทก์รับเงินค่าเช่าจากสำนักงานวางทรัพย์กลางไม่ได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย

ย่อยาว

คดีทั้งห้าสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นรวมพิจารณาและพิพากษาเข้าด้วยกัน
โจทก์ทั้งห้าสำนวนฟ้องเป็นใจความอย่างเดียวกันว่า โจทก์มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการศูนย์การค้า ให้เช่าสถานที่เพื่อประกอบกิจการจำหน่ายหรือผลิตสินค้า โดยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อาคารมาบุญครองเซ็นเตอร์ จำเลยเอาพื้นที่อาคารโจทก์ไปให้ผู้อื่นเช่ารวม 5 ราย โดยจำเลยไม่มีอำนาจ โจทก์ได้แจ้งผู้เช่าทั้งห้ารายดังกล่าวทราบว่าโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ครั้นเดือนมีนาคม 2534ผู้เช่าทั้งห้ารายได้มาทำสัญญาเช่าสถานที่ดังกล่าวกับโจทก์ กำหนดระยะเวลาเช่ารายละ 1 ปี แต่ผู้เช่าทั้งห้ารายนำเงินค่าเช่าไปวางที่สำนักงานวางทรัพย์กลาง กรมบังคับคดี อ้างว่าไม่สามารถหยั่งรู้ถึงสิทธิของเจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิให้เช่าที่แท้จริง โดยมีเงื่อนไขว่าเงินค่าเช่าที่วางไว้ให้จ่ายแก่เจ้าหนี้ที่แท้จริงตามคำพิพากษาอันถึงที่สุด โจทก์ไปขอรับเงินค่าเช่าที่วางไว้ในแต่ละเดือนแต่ไม่สามารถรับเงินได้เพราะตกอยู่ในเงื่อนไขดังกล่าว การที่โจทก์ไม่ได้รับเงินค่าเช่าเป็นผลโดยตรงจากการกระทำละเมิดของจำเลยขอให้พิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิให้เช่าสถานที่พิพาท โจทก์เป็นเจ้าหนี้ที่แท้จริงของผู้เช่าทั้งห้ารายและมีสิทธิรับเงินที่สำนักงานวางทรัพย์กลาง จำเลยไม่มีสิทธิให้บุคคลใดเช่าสถานที่เช่าตามฟ้องให้เพิกถอนนิติกรรมสัญญาเช่าช่วงระหว่างจำเลยกับผู้เช่าทั้งห้ารายห้ามจำเลยสอดเข้าเกี่ยวข้องหรือทำนิติกรรมสัญญาใดผูกพันอาคารของโจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นดอกเบี้ยทุก ๆ เดือน จนกว่าศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าโจทก์เป็นเจ้าหนี้มีสิทธิรับเงินจากสำนักงานวางทรัพย์กลาง
จำเลยทั้งห้าสำนวนให้การทำนองเดียวกันว่า การที่ผู้เช่าทั้งห้ารายทำสัญญาเช่ากับโจทก์และไม่ชำระค่าเช่าเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับผู้เช่าทั้งห้ารายหาเกี่ยวกับจำเลยไม่ โจทก์ชอบที่จะฟ้องร้องเอาแก่ผู้เช่าดังกล่าวโดยเฉพาะ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องบังคับจำเลย จำเลยไม่ได้ทำละเมิดและไม่ได้ทำให้โจทก์เสียหายขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์และจำเลยทั้งห้าสำนวนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งห้าสำนวนฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ทั้งห้าสำนวนฎีกาว่า ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การวางทรัพย์ของผู้เช่าทั้งห้ารายมีเงื่อนไขไม่เป็นประโยชน์แก่เจ้าหนี้ผู้เช่าทั้งห้ารายย่อมไม่พ้นความรับผิดโจทก์ชอบที่จะเรียกให้ผู้เช่าทั้งห้ารายรับผิดตามสัญญาเช่า จำเลยมิได้โต้แย้งสิทธิโจทก์นั้นไม่ถูกต้อง เพราะผู้เช่าทั้งห้ารายมีสิทธิที่จะวางทรัพย์โดยกำหนดเงื่อนไขว่าเพื่อชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ที่แท้จริงตามคำพิพากษาที่สุดได้ โจทก์มีสิทธิว่ากล่าวเอาแก่จำเลยซึ่งโต้แย้งว่าเป็นผู้มีสิทธิให้เช่าโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องพิเคราะห์แล้ว โจทก์ได้ยกข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่าผู้เช่าทั้งห้ารายนำเงินค่าเช่าไปวางที่สำนักงานวางทรัพย์กลางกรมบังคับคดี อ้างว่าไม่สามารถหยั่งรู้ถึงสิทธิของเจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิให้เช่าที่แท้จริงได้ จึงนำเงินค่าเช่าไปวางภายใต้เงื่อนไขเพื่อจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ที่แท้จริงตามคำพิพากษาถึงที่สุดโจทก์ไปขอรับเงินค่าเช่าที่วางในแต่ละเดือนแต่ไม่สามารถรับได้เพราะตกอยู่ในเงื่อนไขดังกล่าว หากจำเลยมิได้ทำสัญญาเช่ากับผู้เช่าทั้งห้ารายโจทก์ก็จะได้รับชำระค่าเช่าโดยตรงการที่โจทก์ไม่ได้รับเงินค่าเช่าจากสำนักงานวางทรัพย์กลางเป็นผลโดยตรงจากการกระทำของจำเลย เห็นว่า ตามข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาดังกล่าวที่ทำให้โจทก์ไม่สามารถรับเงินค่าเช่าที่ไว้ได้เกิดจากการที่ผู้เช่าทั้งห้ารายทำสัญญาเช่ากับโจทก์แล้วไม่ชำระค่าเช่ากลับนำเงินค่าเช่าไปวาง ณ สำนักงานวางทรัพย์กลางโดยกำหนดเงื่อนไขเพื่อจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ที่แท้จริงตามคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งเป็นการกระทำของผู้เช่าทั้งห้ารายไม่ใช่การกระทำของจำเลย การที่โจทก์ไม่สามารถรับเงินค่าเช่าได้ก็เพราะมีเงื่อนไขดังกล่าวที่ผู้เช่าทั้งห้ารายกำหนดไว้ มิใช่เพราะจำเลยไปคัดค้านการขอรับเงินค่าเช่าของโจทก์แต่อย่างใด ทั้งจำเลยได้ทำสัญญาเช่ากับผู้เช่าทั้งห้ารายมาก่อนการวางทรัพย์ จำเลยไม่ได้กระทำละเมิดหรือโต้แย้งสิทธิโจทก์อันเป็นเหตุให้โจทก์รับเงินค่าเช่าจากสำนักงานวางทรัพย์กลางไม่ได้โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
พิพากษายืน

Share