แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์เพิ่งทราบว่าสัญญาขายฝากเป็นโมฆะเมื่อศาลได้มีคำพิพากษาในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่ขายฝาก เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้เพื่อเรียกเงินคืนจากจำเลยในฐานลาภมิควรได้ภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ศาลพิพากษา คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นว่า ให้จำเลยคืนเงิน 15,000 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 27กันยายน 2518 จำเลยได้นำที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เล่ม18 หน้า 78 เลขที่ 60 ตำบลพุมเรียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานีเนื้อที่ 66 ตารางวา พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยไปขายฝากไว้กับโจทก์เป็นเงิน 15,000 บาท มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.1โดยทำหนังสือสัญญาขายฝากกันเอง เมื่อครบกำหนดสัญญาขายฝากดังกล่าวแล้ว โจทก์ได้ฟ้องขับไล่จำเลย ให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินที่ขายฝากต่อศาลจังหวัดไชยา ตามสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 57/2521ของศาลจังหวัดไชยา ในที่สุดศาลจังหวัดไชยาได้พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยวินิจฉัยว่าสัญญาขายฝากระหว่างโจทก์จำเลยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงเป็นโมฆะ
จำเลยฎีกาข้อแรกว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว โดยสัญญาขายฝากรายนี้ได้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2518 โจทก์มาฟ้องเรียกเงินคืนหลังจากครบกำหนดสัญญาถึงสองปี ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 419 บัญญัติว่า “ในเรื่องลาภมิควรได้นั้นท่านห้ามมิให้ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนดปีหนึ่งนับแต่เวลาที่ฝ่ายผู้เสียหายรู้ว่าตนมีสิทธิเรียกคืนหรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่เวลาที่สิทธินั้นได้มีขึ้น” สำหรับอายุความที่กฎหมายกำหนดสิบปีนั้น ปรากฏว่าสัญญาขายฝากเอกสารหมาย จ.1 ทำขึ้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2518 และโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้วันที่ 31 ตุลาคม 2522 หลังจากทำสัญญาแล้ว 4 ปีเศษ จึงอยู่ภายในอายุความสิบปี คดีจึงมีปัญหาแต่เพียงว่าโจทก์ยื่นฟ้องเรียกเงินคืนภายในกำหนดหนึ่งปี นับแต่เวลาที่โจทก์รู้ว่าตนมีสิทธิเรียกคืนหรือไม่ ได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าก่อนที่โจทก์จะฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ โจทก์ได้ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินและบ้านที่ปลูกในที่ดินที่ขายฝากที่ศาลจังหวัดไชยาเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2521 โดยก่อนฟ้องโจทก์ได้ให้ทนายโจทก์มีหนังสือบอกกล่าวไปให้จำเลยทราบตามเอกสารหมาย จ.2 ว่า จำเลยไม่ไถ่ถอนที่ดินและบ้านเรือนที่ดินและบ้านเรือนจึงตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่โจทก์แล้ว พฤติการณ์ของโจทก์แสดงให้เห็นว่าสัญญาขายฝากที่โจทก์จำเลยทำกันไว้นั้น โจทก์ไม่ทราบว่าเป็นโมฆะ หากโจทก์ทราบว่าสัญญาเป็นโมฆะมาแต่ต้นโจทก์คงไม่ยื่นฟ้องขับไล่จำเลยให้เสียเวลาและเสียเงินทอง รูปคดีแสดงให้เห็นว่าโจทก์เพิ่งทราบว่าสัญญาเป็นโมฆะเมื่อศาลจังหวัดไชยาพิพากษาคดี คือเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2521โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้วันที่ 31 ตุลาคม 2522 จึงยังไม่พ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันทราบ คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ”
พิพากษายืน