แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ให้เช่าซื้อรถยนต์ที่โจทก์เอาประกันภัยไว้ ผู้เช่าซื้อให้ลูกจ้างขับรถรับจ้างแล้วเกิดเหตุรถเสียหายขึ้น มิใช่เกิดเหตุเพราะการกระทำของโจทก์หรือบุคคลที่โจทก์ใช้ให้กระทำโดยตรง ไม่ต้องวินิจฉัยว่า ลูกจ้างของผู้เช่าซื้อขับรถโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ โจทก์ผู้รับประโยชน์เรียกค่าสินไหมทดแทนจากผู้รับประกันภัยได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ 41,770 บาทกับดอกเบี้ย จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่จำเลยฎีกาว่า รถยนต์ที่เอาประกันภัยเสียหายเพราะคนขับรถประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ซึ่งตามกฎหมายและเงื่อนไขแห่งสัญญาประกันภัย จำเลยไม่ต้องรับผิดนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อวินาศภัยที่เกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย จำเลยซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยจะต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน เว้นแต่วินาศภัยนั้นจะเกิดขึ้นเพราะความทุจริตหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 875 และตามสัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์จำเลยก็มิได้มีข้อตกลงยกเว้นความรับผิดของจำเลยนอกเหนือไปจากบทบัญญัติดังกล่าว คดีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ผู้ซึ่งเป็นผู้เอาประกันภัยและผู้รับประโยชน์ได้ให้นายธีระชัย ปรีชาหาญ เช่าซื้อรถยนต์ที่เอาประกันภัย และผู้เช่าซื้อได้ให้นายพะเยาว์ รัตนิพนธ์ ลูกจ้างของคนขับรถรับจ้างแล้วเกิดเหตุขึ้น นายพะเยาว์ รัตนิพนธ์ มิใช่ลูกจ้างตัวแทนหรือบุคคลที่รับทำการงานให้โจทก์ วินาศภัยมิได้เกิดขึ้นเพราะการกระทำของโจทก์หรือบุคคลซึ่งโจทก์ใช้ให้กระทำโดยตรง ดังนั้น กรณีจึงไม่จำเป็นที่จะต้องวินิจฉัยว่านายพะเยาว์ รัตนิพนธ์ ขับรถโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ เพราะถึงแม้จะวินิจฉัยเป็นประการใด จำเลยก็ไม่พ้นความรับผิด”
พิพากษายืน