คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2561

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้คืนรถยนต์ของกลาง และยื่นบัญชีระบุพยานเป็นพยานบุคคลสามปาก โดยเป็นพยานนำสองปาก และเป็นพยานนำหรือหมายอีกหนึ่งปาก เมื่อถึงวันนัดไต่สวนคำร้อง ผู้ร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างเพียงว่า ส. ผู้รับมอบอำนาจช่วงผู้ร้องไม่สามารถมาศาลได้ เนื่องจากติดธุระ โดยไม่ปรากฏว่ามีเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงได้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเลื่อนคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 40 วรรคหนึ่ง ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา 15 แล้ว ผู้ร้องยื่นคำร้องขอถอนคำร้องขอคืนของกลางทันทีว่า เนื่องจากผู้ร้องไม่มีพยานมาศาล ผู้ร้องมีความประสงค์จะขอถอนคำร้องขอคืนของกลาง และจะนำคำร้องขอคืนของกลางมายื่นต่อศาลใหม่ภายในอายุความ พฤติการณ์ของผู้ร้อง จึงทำให้คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ให้เลื่อนคดีไม่เป็นผล และเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาเพื่อเอาเปรียบในเชิงคดี อันเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ศาลชั้นต้นชอบที่จะยกคำร้องเสีย และเมื่อผู้ร้องไม่มีพยานหลักฐานมานำสืบให้เห็นว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกริบ มิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด จึงไม่อาจสั่งคืนรถยนต์ของกลางให้แก่ผู้ร้อง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (8), 134 วรรคแรก, 160 วรรคสาม, 160 ทวิ ริบรถยนต์ของกลางและเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของจำเลย
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ในวันนัดไต่สวนคำร้อง ทนายผู้ร้องยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี
โจทก์แถลงคัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดี
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอถอนคำร้องขอคืนของกลาง
โจทก์แถลงคัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องขอถอนคำร้องแล้ว จึงไม่สมควรไต่สวนคำร้องต่อไป ให้จำหน่ายคดีคำร้องขอคืนของกลางออกจากสารบบความ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำร้องขอคืนของกลางของผู้ร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องมีว่า คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ที่ให้ยกคำร้องขอคืนของกลางของผู้ร้องชอบหรือไม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความตามที่คู่ความไม่โต้แย้งกันในชั้นนี้ว่า ผู้ร้องยื่นบัญชีระบุพยานเป็นพยานบุคคลสามปาก โดยเป็นพยานนำสองปาก และเป็นพยานนำหรือหมายอีกหนึ่งปาก เมื่อถึงวันนัดไต่สวนคำร้อง ผู้ร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างเพียงว่า นายสมศักดิ์ ผู้รับมอบอำนาจช่วงผู้ร้องไม่สามารถมาศาลได้ เนื่องจากติดธุระ โดยไม่ปรากฏว่ามีเหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงได้ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ผู้ร้องเลื่อนคดี เพราะเหตุในการขอเลื่อนคดีของผู้ร้องไม่ต้องด้วยบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 แล้ว ผู้ร้องยื่นคำร้องขอถอนคำร้องขอคืนของกลางทันทีเป็นใจความว่า เนื่องจากผู้ร้องไม่มีพยานมาศาล ผู้ร้องมีความประสงค์จะขอถอนคำร้องขอคืนของกลางและผู้ร้องจะนำคำร้องขอคืนของกลางมายื่นต่อศาลใหม่ภายในอายุความ พฤติการณ์ของผู้ร้องจึงทำให้คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ให้เลื่อนคดีไม่เป็นผล และเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาเพื่อเอาเปรียบในเชิงคดี อันเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งให้ยกคำร้องเสีย และต้องถือว่าคดีเป็นอันเสร็จการพิจารณาเพราะคู่ความไม่ติดใจสืบพยาน แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกคำร้องขอคืนของกลางโดยไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานในสำนวนยังไม่ชอบ อย่างไรก็ดีเมื่อคดีไม่จำต้องสืบพยานต่อไป ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยโดยไม่ย้อนสำนวน เห็นว่า ผู้ร้องไม่มีพยานหลักฐานมานำสืบให้เห็นว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกริบ มิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด จึงไม่อาจสั่งคืนรถยนต์ของกลางให้แก่ผู้ร้องได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share