คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3617/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งคืนรถยนต์ของกลางที่ศาลสั่งริบไว้แก่ผู้ร้องครั้งหนึ่งแล้ว แต่ศาลฎีกาพิพากษายกคำร้องเพราะผู้ร้องบรรยายคำร้องว่ารถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้องแต่ผู้เดียวจำเลยนำรถยนต์ของกลางไปใช้โดยผู้ร้องมิได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดเป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 โดยยังมิได้วินิจฉัยประเด็นแห่งคดีที่ว่ารถยนต์ของกลางเป็นสินสมรสของผู้ร้องกับจำเลยที่ 1 และผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 หรือไม่สิทธิยื่นคำร้อง ของ ผู้ร้องจึงยังไม่ระงับไป

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๑ กับพวกในความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ และสั่งริบรถยนต์ของกลางผู้ร้องยื่นคำร้องว่า รถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้องแต่ผู้เดียวจำเลยนำรถยนต์ของกลางไปใช้โดยผู้ร้องมิได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ขอให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง โจทก์คัดค้านว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของร่วมกับจำเลยในรถยนต์ของกลางและรู้เห็นเป็นใจด้วยในการที่จำเลยกระทำความผิด ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ววินิจฉัยว่ารถยนต์ของกลางเป็นสินสมรสของผู้ร้องกับจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นสามีภริยากัน ผู้ร้องจะขอให้ศาลสั่งคืนไม่ได้ ให้ยกคำร้องผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้คืนส่วนกรรมสิทธิ์รถยนต์ของกลางครึ่งหนึ่งให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องและโจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ร้องบรรยายคำร้องว่า รถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้องแต่ผู้เดียว จำเลยนำรถยนต์ของกลางไปใช้โดยผู้ร้องมิได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด เป็นคำร้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖ พิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลางอีกอ้างว่า รถยนต์ของกลางเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องแต่ผู้เดียว จำเลยที่ ๑ นำรถยนต์ของผู้ร้องไปขับ ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า คำร้องดังกล่าวศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาวินิจฉัยชี้ขาดถึงที่สุดแล้ว จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๘ ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นรับคำร้องของผู้ร้องไว้ดำเนินการต่อไป
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำร้องของผู้ร้องลงวันที่ ๑๑ เมษายน๒๕๒๙ เป็นคำร้องที่บรรยายเนื้อความไว้ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖ โดยศาลฎีกายังมิได้วินิจฉัยประเด็นแห่งคดีที่ว่า รถยนต์ของกลางเป็นสินสมรสของผู้ร้องกับจำเลยที่ ๑และผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลยที่ ๑หรือไม่ สิทธิยื่นคำร้องของผู้ร้องจึงยังไม่ระงับไป
พิพากษายืน.

Share