คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2849/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก โดยฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยชำเราผู้เสียหายโดยลักษณะข่มขืนจำคุก 4 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรกเช่นเดียวกัน โดยฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้เสียหายสมัครใจให้จำเลยกระทำชำเราจำคุก2 ปี จึงเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยในบทมาตราเดียวกัน แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้โทษให้เบาลง ก็เป็นการแก้ไขเล็กน้อย และ ลงโทษจำคุกไม่เกิน5 ปี การที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยกระทำชำเราในลักษณะข่มขืนอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้พรากเด็กหญิงสมพิศ ภูมิสกุล ผู้เสียหายอายุยังไม่เกิน 13 ปี ไปเสียจากนางกฤษณา สิวิถะ มารดาโดยไม่มีเหตุอันสมควร เพื่อการอนาจารและจำเลยได้หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย โดยใช้กำลังประทุษร้ายชกต่อยที่ท้องจนผู้เสียหายหมดสติอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 317, 310 และ 277

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก จำคุก 4 ปี ตามมาตรา 310 จำคุก 3 เดือน และตามมาตรา 317 วรรคสาม จำคุก 2 ปี 6 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก จำคุก 2 ปี และมาตรา 317 วรรคสาม จำคุก 1 ปี

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อที่โจทก์ฎีกาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 ว่า จำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายด้วยนั้น เห็นว่าคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก โดยฟังข้อเท็จจริงว่านอกจากจำเลยจะกระทำชำเราผู้เสียหายแล้ว ยังกระทำชำเราในลักษณะข่มขืนด้วย ส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรกเช่นเดียวกัน โดยฟังข้อเท็จจริงว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยกระทำชำเราด้วยความสมัครใจ จึงเป็นกรณีที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยในบทมาตราเดียวกัน แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้โทษให้เบาลง ก็เป็นการแก้ไขเล็กน้อย และลงโทษจำคุกไม่เกินห้าปี โจทก์ฎีกาว่าจำเลยกระทำความผิดในลักษณะข่มขืนกระทำชำเราอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงหาได้ไม่ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

Share