คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1339/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โทษปรับตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 38 ทวิ มิได้มีข้อความจำกัด ได้ว่าถ้ามีผู้ร่วมกระทำผิดหลายคนด้วยกันก็ให้ ปรับรวมกันตามปริมาณน้ำสุราที่ทำการขนพระราชบัญญัติสุรา ฯ มีได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นตามที่ยกเว้นไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 17 จึงต้องลงโทษปรับผู้กระทำผิดเรียงตามรายตัวบุคคลตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 31
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2506)

ย่อยาว

คดีได้ความตามฟ้องและคำรับสารภาพว่าจำเลยได้สมคบกันขนสุรา ๖๓๐ ขวดมีน้ำสุรา ๓๙๓ ลิตรเศษ โดยมิได้รับอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.๒๔๙๓ มาตรา ๑๔,๓๘ ทวิ ฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๘ ให้ปรับคนละ ๓,๙๔๐ บาท รับลดกึ่ง คงปรับคนละ ๑,๙๗๐ บาท ของกลางให้คืน
จำเลยอุทธรณ์ว่า ศาลชั้นต้นปรับจำเลยเรียงตัวไม่ชอบ
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โทษปรับผู้กระทำผิดตามมาตรา ๓๘ ทวิ นั้น มีเกณฑ์กำหนดโทษให้ปรับตามปริมาณน้ำสุราที่ทำการขนในอัตราลิตรละ ๑๐ บาท ๆ การปรับเรียงตามรายตัวบุคคลจึงไม่ชอบ พิพากษาแก้ ให้ปรับจำเลยทุกคนรวมกันเป็นเงิน ๓,๙๔๐ บาท รับกึ่งหนึ่ง คงปรับ ๑,๙๗๐ บาท
โจทก์ฎีกา ขอให้ปรับจำเลยทั้ง ๓ เรียงตามรายตัวบุคคล
ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.๒๔๙๓ มาตรา ๑๔,๓๘ ทวิผู้ใดกระทำผิดฐานนี้จะต้องถูกลงโทษปรับตามปริมาณน้ำสุราที่ทำการขนในอัตราลิตรละ ๑๐ บาท เศษของลิตร ให้ถือเป็นหนึ่งลิตร มิได้มีข้อความจำกัดไว้ว่าถ้ามีผู้ร่วมกระทำผิดหลายคนด้วยกันก็ให้ปรับรวมกันตามปริมาณน้ำสุรา เมื่อได้พิเคราะห์ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๗ และ ๓๑ ประกอบด้วยแล้ว เห็นว่า พระราชบัญญัติสุรา ฯ มิได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น เพียงแต่ให้ถือตามปริมาณน้ำสุราที่ทำการขนเป็นเกณฑ์ในการปรับผู้กระทำผิดเท่านั้น จึงต้องลงโทษปรับจำเลยในคดีนี้เรียงตามรายตัวบุคคล
พิพากษาแก้ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share