คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำการแปรรูปไม้สักและมีไม้สักแปรรูปไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ตามฟ้องโจทก์ได้บรรยายว่าเกวียน 1 เล่ม โค 2 ตัวของกลางที่โจทก์ขอให้ริบนั้นเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเลยร่วมกันใช้ในการกระทำผิดและใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดคดีนี้ ย่อมหมายความว่า รวมทั้งจำเลยร่วมกันใช้เกวียนและโคนั้นเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด คือ การแปรรูปไม้สักและมีไม้สักแปรรูปไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยนั่นเอง เมื่อจำเลยรับสารภาพตามฟ้องโดยไม่ต่อสู้คดี ก็ต้องถือว่า เกวียนและโคของกลางนั้นเป็นของที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้ ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามที่โจทก์บรรยายไว้ในฟ้องอันต้องริบเสียตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 18

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันทำการแปรรูปไม้สักหวงห้าม ๑ ท่อน และมีไม้สักแปรรูป ๔๖ แผ่น ไว้ในความครอบครองปริมาตรเนื้อไม้ ๐.๔๐ ลูกบาศก์เมตร ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาต เจ้าพนักงานจับได้ขณะใช้เกวียนชักลากไม้นั้น และยึดได้ไม้สัก ๔๖ แผ่น กับเกวียน ๑ เล่ม โค ๒ ตัว เลื่อย ๑ ปื้น อันเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเลยร่วมกันใช้ในการกระทำผิดและใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดคีดนี้เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษและริบของกลาง
จำเลยรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง เลื่อยของกลางริบ ส่วนเกวียนและโคเห็นว่ามิได้ใช้ในการกระทำผิดให้คืนเจ้าของ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ริบเกวียนและโคของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องโจทก์ได้บรรยายว่าเกวียน ๑ เล่ม โค ๒ ตัว ของกลางที่โจทก์ฎีกาขอให้ริบนั้น เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเลยร่วมกันใช้ในการกระทำผิดและใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดคดีนี้ ก็คือ หมายความว่า รวมทั้งจำเลยร่วมกันใช้เกวียนและโคดังกล่าวนั้นเป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด คือ การแปรรูปไม้สักและมีไม้สักแปรรูปไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตด้วยนั่นเอง ฟ้องโจทก์ดังนี้ เมื่อจำเลยทั้งสามรับสารภาพและโดยเฉพาะจำเลยที่ ๓ ได้รับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการ โดยจำเลยทั้ง ๓ ไม่ได้ต่อสู้คดีประการใด เช่นนี้ ก็ต้องถือว่าเกวียนและโคของกลางนั้นเป็นของที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามที่โจทก์บรรยายไว้ในฟ้อง อันต้องริบเสียตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๑๘ พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยให้ริบเกวียนและโคของกลางเสียด้วย

Share