คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1488/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการที่เจ้าหนี้ยึดที่ดินของลูกหนี้ยึดที่ดินของลูกหนี้เอาออกขายทอดตลาดเพื่อเอาเงินใช้หนี้นั้น เมื่อผู้ใดอ้างว่าทรัยพ์รายพิพาทได้จำนองไว้แก่ตนแลจะขอให้ขายอย่างมีการจำนองติไปด้วยก็ต้องยื่นคำร้องต่อศาล เพียงแต่มีคำแถลงของจำเลยและมีจดหมายของผู้เกี่ยวข้องในการรับจำนองบอกไปยังเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ยังไม่เป็นหลักฐานที่จะรับฟังได้ กรณีเช่นนี้ศาลต้องขายที่ดินอย่างคดีธรรมดา

ย่อยาว

เดิมโจทก์ชนะคดีจำเลยจึงนำเจ้าพนักงานยึดที่ดินรายพิพาท เจ้าพนักงานยึดทรัพย์จึงได้ประกาศการยึดทรัพย์รายนี้จำเลยแถลงต่อเจ้าพนักงานว่าที่แปลงนี้จำเลยได้จำนองไว้กับ ศ. แล้วต่อมา ส. ได้มีหนังสือถึงเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า ส. เป็นผู้ได้รับช่วงสิทธิการจำนองรายนี้จาก ศ. โดยเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยแลได้ชำระเงินให้แก่ ศ. ไปแล้ว จึงขอให้ขายที่รายนี้โดยมีการจำนองติดไปด้วย
ศาลล่างทั้ง 2 มีคำสั่งให้ขายที่รายนี้โดยมีการจำนองติดไปด้วย
ศาลฎีกาเห็นว่าตามสำนวนไม่ปรากฎว่ามีการจำนองติดที่ดินรายนี้ เป็นแต่เพียงคำแถลงของจำเลยต่อเจ้าพนักงานแลจดหมายของ ส.กับสำเนาจำนองส่งต่อศาล จะรับฟังเป็นหลักฐานแห่งการจำนองไม่ได้
อนึ่งเห็นว่า ศ. แล ส. มิได้ยื่นคำร้องให้ถูกต้องตามประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.289 คดีไม่มีหลักฐานกระทำให้ศาลสั่งให้ขายที่รายพิพาทนี้โดยมีการจำนองติดไปด้วย จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ให้ขายที่ดินรายพิพาทนี้อย่างคดีธรรมดา

Share