แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การขอเลื่อนสืบพยานโจทก์ถึง 6 ครั้ง ถ้าแต่ละครั้งไม่ใช่ความผิดของโจทก์ ศาลก็ไม่ควรสั่งจำหน่ายคดี
ในการนัดสืบพยานโจทก์ครั้ง ที่ 4 พยานโจทก์บางคนโทรเลขแจ้งว่าป่วย บางคนเซ็นทราบนัดแล้ว ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง โจทก์แถลงขอให้ศาลออกหมายจับพยานศาลสั่งให้ไต่สวนก่อนออกหมายจับและสั่งให้นัดสืบพยานโจทก์ต่อไปและออกหมายเรียกพยานโดยกำหนดวันไว้ด้วย เป็นวันหลังจากนัดนัดไต่สวนเพื่อออกหมายจับพยาน การที่ในวันนัดไต่สวนไม่มีคู่ความมาศาลเลย ทั้ง 2 ฝ่าย เช่นนี้ จะถือว่าเป็นความผิดของโจทก์ไม่ได้ เพราะการออกหมายเรียกให้พยานมาเบิกความในวันต่อไปนั้น ก็เท่ากับให้โอกาศพยานอีกครั้ง การไต่สวนเพื่ออกหมายจับก็ย่อมไม่จำเป็นซึ่งโจทก์อาจเข้าใจเช่นนี้ก็ได้ จึงไม่ได้มาศาลในวันนัดไต่สวน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง ๔ คน ฐานใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริต เบิกความเท็จละเมิด ศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีมีมูล จำเลยทั้ง ๔ คน ให้การปฏิเสธ
นัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก นายเขียนจำเลยกับนายทิณนายประกันขอเลื่อนเพราะนายบุตรจำเลยไม่ได้มาศาลอ้างเหตุทำศพมารดา
นัดที่ ๒ ทนายโจทก์ไม่สบาย ขอเลื่อนจำเลยไม่ค้านศาลอนุญาต
นัดที่ ๓ มีพยานโจทก์มาศาล ๒ คน โจทก์ขอเลื่อน จำเลยไม่ค้าน ศาลอนุญาต
นัดที่ ๔ โจทก์จำเลยมาศาล นายพร้อมพยานโจทก์โทรเลยแจ้งศาลว่าป่วย แต่ทนายโจทก์ค้านว่าไม่ป่วย นายล่องพยานโจทก์อีกคนหนึ่ง ทั้งที่เซ็นต์ทราบวันนัดไว้แล้ว ไม่มาศาลตามนัด โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ โจทก์ขอให้ศาลออกหมายจับพยาน แต่ศาลสั่งให้นัดไต่สวนในวันที่ ๔ ก.พ. เพื่อให้ประจักษ์ความจริงเสียก่อนออกหมายจับและนัดสืบพยานโจทก์ใหม่ในวันที่ ๕ กุมภาพันธ์
ครั้นถึงวันที่ ๔ ก.พ. ๒๕๐๑ คู่ความทั้งสองฝ่ายไม่มาศาลตามนัด ศาลสั่งว่าไม่มีใครมาก็ไม่ต้องไต่สวน
นัดที่ ๕ วันที่ ๕ ก.พ. พยานไม่มา โจทก์ขอให้ศาลออกหมายจับพยานอ้างเหตุ พยานหลีกเหลี่ยงไม่ยอมรับหมาย ศาลสั่งว่า คราวก่อนโจทก์ขอให้จับพยาน ศาลสั่งไต่สวน โจทก์ก็ไม่มา คราวนี้จะขอให้หมายจับพยานอีก ศาลเห็นว่ายังไม่สมควร จึงให้งดหมายจับและให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ในวันที่ ๗ มี.ค. ๒๕๐๑ ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งที่ ๖
วันที่ ๑๕ ก.พ. ๒๕๐๑ โจทก์อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ออกหมายจับศาลชั้นต้นสั่งไม่รับ
วันที่ ๑๘ ก.พ. ๒๕๐๑ โจทก์ยื่นคำร้องขอนำพนักงานศาลส่งหมายให้พยานและในวันที่ ๑ มี.ค. ๒๕๐๑ โจทก์ยื่นคำแถลงศาลว่าโจทก์ป่วย ไม่สามารถหาเงินเพื่อการส่งหมายได้ ขอเลื่อนสืบพยานโจทก์ใหม่ในวันที่ ๒๒ มี.ค. ๒๕๐๑ ศาลสั่งให้โจทก์มาฟังคำสั่งในวันที่ ๓ มี.ค. ๒๕๐๑ แล้วในวันที่ ๓ มี.ค. ศาลจะรายงานพิจารณาว่า ให้โจทก์มาฟังคำสั่งในวันที่ศาลนัดไว้เดิม ( ๗ มี.ค. ๒๕๐๑ )
วันที่ ๗ มี.ค. ๒๕๐๑ ตัวโจทก์และจำเลยทุกคนมาศาลโจทก์แถลงว่าบุตรป่วย จึงไม่ได้มาติดต่อวางเงินค่าส่งหมายเรียกพยาน ขอเลื่อนสืบ จำเลยคัดค้านว่าเสียเวลาและเงินทองมาก การเลื่อนคดีทุกครั้งไม่ใช่ความผิดของจำเลย เพราะจำเลยมาศาลทุกนัด ศาลไม่ควรยอม
ศาลชั้นต้นสั่งว่า คราวนี้โจทก์มิได้มาจัดการนำหมายเรียกพยานไปส่งแก่พยาน ทั้งที่ศาลให้เวลาอย่างมากมายแล้ว การเลื่อนคดีทุกครั้งเป็นความผิดของโจทก์พฤติการณ์ที่โจทก์ขอเลื่อนครั้งนี้เห็นว่า โจทก์มิได้มาดำเนินคดีภายในกำหนดที่ศาลสั่ง ถือว่าโจทก์ได้ละทิ้งคดีของตน จึงสั่งจำหน่ายคดีโจทก์เสีย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การเลื่อนคดีแต่ละครั้งไม่ใช่ความผิดของโจทก์ การขอเลื่อนครั้งแรก เป็นเรื่องจำเลยกับนายประกันขอเลื่อนเพราะมารดาของจำเลยคนหนึ่งตาย จำเลยติดงานทำศพมารดา นัดที่ ๒ ทนายโจทก์ไม่สบายของเลื่อน จำเลยก็ไม่ค้าน และศาลก็สั่งอนุญาต นัดที่ ๓ แม้โจทก์ของเลื่อน แต่ก็มีพยานโจทก์มาศาลถึง ๒ คน ศาลควรจะให้สืบพยานโจทก์เท่าที่มาไปได้ แต่เมื่อจำเลยไม่ค้านศาลก็อนุญาตให้เลื่อนไป ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดโจทก์ในการที่พยานมาไม่ครบ นัดที่ ๔ พยานบางคนโทรแจ้งว่าป่วย บางคนเซ็นทราบนัดแล้ว ไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ให้ศาลทราบ โจทก์แถลงขอให้ศาลออกหมายจับพยาน ศาลสั่งให้ไต่สวนก่อนออกหมายจับและสั่งให้นัดสืบพยานโจทก์ต่อไป ดังนี้ จะตำหนิว่าเป็นความผิดของโจทก์ยังไม่ได้ เพราะเห็นได้ว่าโจทก์ได้พยายามอยู่เหมือนกันที่จะให้ได้พยานมาให้ศาลสืบ ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้เจ้าพนักงานศาลเป็นผู้ส่งหมายให้พยานโดยโจทก์จะเป็นผู้นำและก็ปรากฏว่าส่งหมายให้พยานได้ทุกคน คงขาดเพียงนายล่องคนเดียว เมื่อศาลสั่งอนุญาตให้มีการส่งหมายให้แก่พยานโจทก์เพื่อให้พยานมาเบิกความในวันต่อไปเสียใหม่แล้ว ในวันนัดไต่สวนเพื่อออกหมายจับพยานจึงไม่มีคู่ความมาศาล
ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของโจทก์อีกเช่นเดียวกัน เพราะการออกหมายนัดให้พยานมาเบิกความในวันต่อไปนั้น ก็เท่ากับให้โอกาศพยานอีกครั้ง การไต่สวนเพื่อออกหมายจับก็ย่อมไม่จำเป็น ซึ่งโจทก์อาจเข้าใจเช่นนี้ ก็ได้ จึงไม่ได้มาศาล แต่เมื่อถึงวันนัด พยานโจทก์ไม่มาศาลอีก แต่ศาลกับตำหนิโจทก์โดยยกเหตุที่โจทก์ไม่มาในวันนัดไต่สวนแล้วกลับสั่งให้เลื่อนสืบไปอีก ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของโจทก์แต่อย่างใด ก่อนถึงวันนัด โจทก์แถลงให้ศาลทราบว่าโจทก์ป่วย ไม่สามารถหาเงินเพื่อการส่งหมายได้ ขอเลื่อน แทนที่ศาลจะสั่งอนุญาตหรือไม่ กลับให้โจทก์รอฟังคำสั่งในวันนัดสืบพยาน ครั้นถึงวันนัด ศาลกลับสั่งจำหน่ายคดีเสีย กรณีดังกล่าวมา ศาลฎีกาเห็นว่ายังถือไม่ได้ว่าเป็นความผิดของโจทก์ จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาต่อไปตามรูปคดี