คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์โดยชำระด้วยเงินสดบางส่วน ที่เหลือชำระด้วยเช็คผู้ถือซึ่งจำเลยที่ 2 ลงชื่อสั่งจ่ายชำระหนี้ค่าหมูที่จำเลยที่ 2 ซื้อจากจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 ลงชื่อสลักหลังเช็คดังกล่าวด้วย แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยที่ 2 จึงออกเช็คผู้ถืออีก 2 ฉบับให้โจทก์แทนเช็คฉบับเดิม โดยจำเลยที่ 1 มิได้ลงชื่อสลักหลังธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้งสองฉบับ ดังนี้ การที่จำเลยที่ 1 เอาเช็คของจำเลยที่ 2 มาชำระหนี้ให้โจทก์ เมื่อโจทก์ยังไม่ได้รับเงินตามเช็คเพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินหนี้จึงไม่ระงับไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 แม้จำเลยที่ 2 จะออกเช็คใหม่ 2 ฉบับพร้อมทั้งให้ดอกเบี้ยด้วยและเอาเช็คเก่าคืนไปโดยจำเลยที่ 1 ไม่ได้ลงชื่อสลักหลังก็ตามก็ถือไม่ได้ว่ามีการแปลงหนี้ใหม่ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้งสองฉบับอีก จำเลยที่ 1 ยังคงต้องรับผิดในหนี้ตามสัญญาซื้อขายส่วนจำเลยที่ 2 รับผิดตามเช็ค

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน ๖๐,๗๕๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปีในต้นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ให้การปฏิเสธ
จำเลยที่ ๒ ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๒ ชำระหนี้เป็นเงิน ๖๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๒๗ จนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยที่ ๑ นำสืบ ฟังได้ว่า จำเลยที่ ๑ ซื้อวัสดุก่อสร้างจากโจทก์เป็นเงิน ๖๓,๔๘๕ บาท จำเลยที่ ๑ ชำระเงินสด ๓,๔๘๕ บาท ส่วนที่เหลือเอาเช็คผู้ถือซึ่งจำเลยที่ ๒ ลงชื่อสั่งจ่ายชำระหนี้ค่าหมู่ที่จำเลยที่ ๒ ซื้อจากจำเลยที่ ๑ จำนวนเงิน ๖๐,๐๐๐ บาทจำเลยที่ ๑ ลงชื่อสลักหลังเช็คชำระหนี้ให้โจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยที่ ๑ จึงพาจำเลยที่ ๒ มาพบนายธนาแซ่อึ้งน้องโจทก์ แล้วจำเลยที่ ๒ ออกเช็คผู้ถือของธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาระยอง จำนวน ๒ ฉบับ ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๒๗ และวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๒๗ สั่งจ่ายเงินฉบับละ ๓๐,๐๐๐ บาท แล้วรับเช็คฉบับ ๖๐,๐๐๐ บาท คืนไปโดยจำเลยที่ ๑ มิได้ลงชื่อสลักหลัง วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๒๗ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้งสองฉบับ
จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่า กรณีดังกล่าวเป็นการเปลี่ยนตัวลูกหนี้จากจำเลยที่ ๑ มาเป็นจำเลยที่ ๒ แล้ว จำเลยที่ ๑ จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จำเลยที่ ๑ เอาเช็คของจำเลยที่ ๒ มาชำระหนี้ให้โจทก์นั้น เมื่อโจทก์ยังไม่ได้รับเงินตามเช็คเพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน หนี้จึงไม่ระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๒๑ แม้จำเลยที่ ๒ จะออกเช็คใหม่ ๒ ฉบับ พร้อมทั้งให้ดอกเบี้ยและเอาเช็คเก่าคืนไปโดยจำเลยที่ ๑ ไม่ได้ลงชื่อสลักหลังก็ตาม ถือไม่ได้ว่ามีการเปลงหนี้ใหม่ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้งสองฉบับอีก จำเลยที่ ๑ ยังคงต้องรับผิดในหนี้ตามสัญญาซื้อขาย ส่วนจำเลยที่ ๒ รับผิดตามเช็ค ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยที่ ๑ ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share