แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงาน เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าสึกหรอของเครื่องจักรเครื่องมือและค่าควบคุมซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบความเสียหายและดำเนินการต่าง ๆ เป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องมีแน่นอนและโจทก์ได้ใช้ไปในการซ่อมรถจักรดีเซลของโจทก์ที่ได้รับความเสียหายซึ่งสามารถคิดคำนวณเฉลี่ยออกมาได้จึงเป็นค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยโจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายทั้งสองส่วนนี้ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ด้วยความประมาทไปบนทางรถไฟโดยมิได้หยุดตามสัญญาณห้ามก่อนข้ามทางรถไฟ และไม่ดูว่ามีขบวนรถไฟกำลังแล่นมาหรือไม่ เป็นเหตุให้ขบวนรถไฟของโจทก์ที่แล่นผ่านทางที่เกิดเหตุพอดี และในระยะกระชั้นชิดไม่สามารถหยุดขบวนรถไฟได้ทันจึงชนกับรถยนต์ดังกล่าว เป็นเหตุให้รถจักรดีเซลของโจทก์เสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 131,495.94 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์เป็นเงิน 35,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายจำนวน 50,673.22 บาท แก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาว่า ค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงานคิดเป็นเงิน 46,463.28 บาท และค่าควบคุมคิดเป็นเงิน 25,255.49 บาทโจทก์ได้เสียหายไปจริง ขอเพิ่มค่าเสียหายให้เป็นไปตามฟ้องโจทก์
ประเด็นที่จะวินิจฉัยในชั้นนี้จึงมีว่า โจทก์ควรได้รับค่าเสียหายเพียงใด สำหรับค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงานและค่าควบคุมนั้นโจทก์มีนายไพฑูรย์ ศรีวรวิทย์ หัวหน้าแผนกบัญชีโรงงานมักกะสันซึ่งมีหน้าที่คิดค่าเสียหายในการซ่อมเป็นพยานเบิกความว่า ค่าใช้จ่ายทั่วไปในโรงงาน เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าสึกหรอของเครื่องจักรเครื่องมือ ส่วนค่าควบคุมคือค่าใช้จ่ายที่ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบความเสียหายและดำเนินการต่าง ๆ เห็นว่า ค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายที่จะต้องมีแน่นอน และโจทก์ได้ใช้ไปในการซ่อมรถจักรดีเซลของโจทก์ที่ได้รับความเสียหายซึ่งสามารถคิดคำนวณเฉลี่ยออกมาได้ จึงเป็นค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดจากการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 โจทก์จึงมีสิทธิเรียกค่าเสียหายทั้งสองส่วนนี้ได้แต่ค่าใช้จ่ายเหล่านี้โจทก์เสียหายแท้จริงเท่าไรนั้น โจทก์มิได้นำสืบให้ชัดแจ้ง เมื่อพิเคราะห์ถึงสภาพรถจักรดีเซลของโจทก์ที่ได้รับความเสียหาย และค่าของก็มีเพียง 6,632.20 บาท แล้วเห็นควรกำหนดค่าเสียหายทั้งสองส่วนนี้ให้รวมเป็นเงิน 7,500 บาทเมื่อรวมกับค่าแรงและค่าของแล้วโจทก์จึงเสียหาย เป็นเงิน58,173.22 บาท
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายจำนวน 58,173.22 บาท แก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์