คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อเจ้าหนี้ทำหนังสือคิดจำนวนเงินหนี้สินเอาจากลูกหนี้เท่านั้นเท่านี้แล้ว ภายหลังจะกลับคิดเอาจากจำนวนหนี้เดิมอีกไม่ได้ เมื่อผู้รับซื้อฝากทำหนังสืออนุญาตให้ผู้ขายฝากขายทรัพย์นั้นต่อไปแล้ว ผู้ขายฝากย่อมขายทรัพย์นั้นได้
ที่ดิน ซื้อขายที่ดินยังไม่มีโฉนดทำสัญญากรมธรรม์ต่ออำเภอก็เป็นการใช้ได้
ตัวแทน เจ้าหนี้ทำหนังสือมอบให้ผู้อื่นรับเงินจากลูกหนี้แทนตนแม้ผู้รับเงินจะทำเงินหายเจ้าหนี้ก็จะมาฟ้องเรียกเงินจากลูกหนี้อีกไม่ได้ ฎีกาอุทธรณ์ปัญหากฎหมาย เอกสารถูกต้อง 2 ฉะบับ มีข้อความขัดกัน ปัญหาว่าเอกสารฉะบับไหนจะมีผลบังคับนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยที่ ๑ ทำสัญญาขายฝากสวนไว้กับโจทก์ ๑๐๐๐ บาทแล้วจำเลยที่ ๑ เขาสวนทำโจทก์ว่าค่าเช่าค้าง ๙๖๐ บาทจำเลยที่ ๑ ว่า ๕๘๐ บาท
ต่อมาโจทก์อนุญาตเป็นลายลักษณอักษรให้จำเลยที่ ๑ ขายส่วนแก่จำเลยที่ ๒ ส่วนเงินค่าขายฝากและค่าเช่า ๑๕๘๐ บาทโจทก์ให้กรมการอำเภอยึดไว้ให้โจทก์จำเลยที่ ๑-๒ ทำสัญญาซื้อขายเป็นกรมธรรม์ต่ออำเภอ นายหลีกรมการอำเภอได้รับเงิน ๑๕๘๐ บาทไว้แล้วต่อมานายหลีบอกว่าเงินนั้นหายโดยผู้ร้ายลัก
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ๑. เงินค่าเช่าต้องถือตามหนังสือหมาย ง. ซึ่งโจทก์คิดเอาเพียง ๕๘๐ บาท ๒. สัญญาซื้อขายนั้นสมบูรณ์ เพราะโจทก์มี่หนังสืออนุญาตให้จำเลยที่ ๑ ขายแก่จำเลยที่ ๒ โดยโจทก์ประสงค์ให้หักค่าขายไว้ใช้หนี้โจทก์
๓. สัญญาซื้อขายทำถูกต้องแล้วเพราะทีนี้ ไม่มีโฉนด ทั้งโจทก์ไม่ได้ยกขึ้นเถียงแต่ต้นด้วย ๔. ตามหนังสือหมาย ง.โจทก์ได้มอบให้กรมการอำเภอรับเงินแทนเมื่อกรมการอำเภอได้รับเงินไว้แล้ว จำเลยก็พ้นความรับผิด จึงพิพากษายกฟ้องโจทก์ยืนตามศาลล่าง

Share