คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 812/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปล้นทรัพย์ และฆ่าเจ้าทรัพย์ตายโดยประสงค์ที่จะเอาทรัพย์ แม้ไม่ปรากฎตัวผู้ฆ่าต้องลงโทษตาม ม.250 ข้อ 5 ซึ่งเป็นบทที่หนักแก่พวกปล้นทุกคน
พะยาน คำของผู้ตายที่เบิกความก่อนตายโดยรู้สึกชัวว่าจะไม่รอดและในขณะนั้นก็ยังมีสติดีกับทั้งได้สาบาลตัวแล้วย่อมฟังเป็นพะยานหลักฐานได้

ย่อยาว

ทางพิจารณาได้ความว่าคืนวันโจทก์หามีผู้ร้าย ๓ คนถืออาวุธปืน มีด แลสามง่ามเข้าทำการปล้นทรัพย์ แลฆ่าเจ้าทรัพย์กับพวกตาย โจทก์ไม่มีประจักษพะยานแต่มีคำของ ห.พวกเจ้าทรัพย์ก่อนตายซึ่งรู้สึกว่าจะไม่รอดแลในขณะนั้นก็ยังมีสติดีอยู่กับทั้งได้สาบาลตัวแล้วเบิกความว่าจำเลยเป็นผู้ร้ายทำการปล้นทรัพย์รายนี้ แลโจทก์ยังมีพะยานแวดล้อมกรณีอีกหลายปากมาเบิกความ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้โจทก์จะไม่มีประจักษพะยานได้รู้เห็นในเวลาเกิดเหตุมาเบิกความก็ดี แต่โจทก์มีคำของ ห.ผู้ตายมาเบิกความในขณะที่รู้สึกตัวว่าจะไม่รอด แลพะยานเหตุผลประกอบอย่างใกล้ชิด คดีฟังได้ว่า จำเลยทั้ง ๓ คน เป็นผู้ร้ายปล้นทรัพย์แลฆ่าเจ้าทรัพย์กับพวกตาย แลเห็นว่าการที่จำเลยฆ่าเจ้าทรัพย์กับพวกตายก็เพื่อประสงค์ให้สดวกต่อการปล้นทรัพย์รายนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นผิดตาม ม.๓๐๑ ฐานปล้นทรัพย์ แลมาตรา ๒๕๐ ข้อ ๕ ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาประกอบด้วยเหตุอุกฉกรรจ์ควรวางโทษตามมาตรา ๒๕๐ ข้อ ๕ อันเป็นบทที่หนัก จึงพิพากษายืนตามศาลล่างให้ประหารชีวิตร์จำเลย

Share