คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3937/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้วเห็นว่าคดีมิได้อยู่ในเขตอำนาจ สั่งไม่รับคำฟ้อง กรณีย่อมถือได้ว่าเป็นคำสั่งประทับฟ้อง ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 161 เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 220 ที่แก้ไขใหม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 ที่แก้ไขแล้ว ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32 ให้ริบของกลาง และนับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 599/2534 ของศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นพิจารณาคำฟ้องแล้ว เห็นว่า คดีมิได้อยู่ในเขตอำนาจของศาลชั้นต้น ไม่รับคำฟ้อง ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้แม้ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องของโจทก์แล้วสั่งไม่รับคำฟ้องก็ตาม กรณีย่อมถือได้ว่าเป็นคำสั่งไม่ประทับฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ผลเท่ากับศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกฟ้องโจทก์ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่แก้ไขใหม่ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ไว้จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้”
พิพากษายกฎีกาโจทก์.

Share